วันนี้ (25 ส.ค.2564) ได้มีการเปิดเผยถึงเรื่องราวของรถเมล์ฉีดวัคซีนแบบเคลื่อนที่ โดย พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ผ่านเพจส่วนตัว โดยเนื้อหาของข้อความระบุถึงทางออกในการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ผ่านรถฉีดวัคซีนที่ต่อยอดจากรถประจำทาง แบบเคลื่อนที่ถึงหน้าบ้าน ภายใต้ชื่อเรียกว่า “BKK Mobile Vaccination Unit : BMV”
.
.
“การที่จะฉีดวัคซีนประชาชนทุกคนให้เร็วที่สุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทันทีที่ได้รับจัดสรรก็ได้ฉีดเชิงรุกในสถานที่เสี่ยง ในชุมชน ให้กับคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ทุกพื้นที่เขต ก็เพื่อให้เข้าถึงคนที่ไม่สะดวกเดินทาง จึงได้จัดรถฉีดวัคซีนถึงบ้าน (BKK Mobile Vaccination Unit : BMV) ที่จะมีทีมหมอ พยาบาล นั่งรถไปฉีดเชิงรุกให้ถึงหน้าบ้านที่จะเคลื่อนที่ไปตามชุมชน ฉีดใกล้บ้านให้ได้มากที่สุด คาดว่าจะเริ่มฉีดได้สัปดาห์หน้านี้”
.
.
.
.
.
.
.
โดยลักษณะของรถฉีดวัคซีน ภายนอกจะเป็นรถโดยสารประจำทางทั่วไป แต่ภายในมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดอุณหภูมิ ตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาวัคซีน อุปกรณ์ปฐมพยาบาล เตียงสนาม เครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED) สามารถฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัยเช่นเดียวกับมาตรฐานในโรงพยาบาล และหลังการฉีดวัคซีนจะฆ่าเชื้อทุกวัน
.
พร้อมเท้าความถึงตัวอย่างของการนำโมเดลนี้มาปรับใช้ว่า การฉีดวัคซีนบนรถเช่นนี้ มีการนำมาใช้แล้วในประเทศต่างๆ เช่น จีน เวียดนาม กทม.ได้นำรูปแบบมาประยุกต์ให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การฉีดวัคซีนของ กทม. คล่องตัวมากขึ้น
ช่วยลดความเสี่ยงในการเดินทางมาจุดฉีดสำหรับผู้ที่ต้องใช้รถโดยสารสาธารณะ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเดินทาง หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการไปฉีดวัคซีนตามเวลาปกติ เพราะรถบัสวัคซีนสามารถไปให้บริการตามย่านใกล้ๆที่ทำงานได้
.
และยังได้กล่าวขอบคุณ Plan B Media, หมอแล็บแพนด้า, โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure, ซึ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในผู้ริเริ่มจุดประกายไอเดียนี้พร้อมกับกทม.
ส่งท้ายด้วยการส่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ปฏิบัติงานอย่างเสียสละและทุ่มเทมาโดยตลอด กทม.กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งการตรวจเชิงรุกและการฉีดวัคซีน “เราจะผ่านมันไปด้วยกันครับ”