ตลาดออนไลน์มือสอง Carousell กลายเป็นยูนิคอร์นใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์หลังจากระดมทุนได้ 100 ล้านดอลลาร์


Carousell แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์มือสอง จากสิงคโปร์ กลายเป็นสตาร์ทอัพรายล่าสุดของอาเซียน ขึ้นแท่นยูนิคอร์นล่าสุดไปเรียบร้อย หลังจากระดมทุนมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดยมี STIC Investments บริษัทลงทุนในเกาหลีใต้ เป็นส่วนสำคัญในการระดมทุน พร้อมตั้งเป้าเพื่อพยายามที่จะขยายไปสู่สินค้าขนาดใหญ่ท่ามกลางการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่เกิดจากการระบาดใหญ่

Carousell ระดมทุนได้ 100 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย STIC Investments บริษัทไพรเวทอิควิตี้ของเกาหลีใต้ ภายหลังมีแถลงการณ์เมื่อวันพุธ จาก Venture Cap Insights ซึ่งได้เปิดเผยว่า Carousell มีมูลค่าประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ในปี 2020

“เราเชื่อว่าการนำประสบการณ์ดิจิทัลมาปรับใช้อย่างรวดเร็ว นับเป็นโอกาสสำหรับเราในการเพิ่มความพยายามในการทุ่มทุนครั้งใหม่ของเราได้มากขึ้น 2 เท่า โดยจะเน้นไปที่ความสะดวกและความไว้วางใจ เพื่อการเติบโตอย่าค่อยเป็นค่อยไปในชุมชนแพลตฟอร์มของเรา” Quek Siu Rui ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Carousell ได้กล่าวแถลงการณ์

Carousell ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2555 ดำเนินกิจการตลาดออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้ซื้อและขายผลิตภัณฑ์มือสองหลากหลายประเภท รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประดับแฟชั่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง โดยยังมี Telenor ASA, Rakuten Ventures, Naver และ Sequoia Capital India เป็นกลุ่มนักลงทุนที่ให้การสนับสนุน ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 15.7 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 ตามข้อมูลของ Venture Cap Insights

“เราเติบโตไปไกลกว่าหมวดหมู่ต่างๆ เช่น แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าทั่วไป” Quek กล่าว “ในขณะที่ภูมิภาคนี้ ผู้คนมีฐานะร่ำรวยมากขึ้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาก็คงต้องการมีความสุขกับสิ่งที่ดีกว่าในชีวิต เรากำลังพิจารณาความสามารถในการรับรองความถูกต้องสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงกว่าที่มีอยู่ รวมถึงสินค้าหรูหราและรถยนต์”

แพลตฟอร์ม Carousell มีกลยุทธ์การดำเนินการที่ง่ายและรวดเร็ว โดยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพของสิ่งของที่ต้องการขาย ใส่ชื่อรายการ พร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในตลาดซื้อขายสำหรับผู้ซื้อ ซึ่งที่ผ่านมา Carousell ก็นับว่าได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากผู้คนหันมาใช้แพลตฟอร์ม E-Commerce กันมากขึ้น ผนวกกับเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

สิงคโปร์ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นศูนย์กลางสำหรับสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดหุ้นท้องถิ่นได้เปิดเผยกฎเกณฑ์ใหม่ในเดือนนี้เพื่อปูทางสำหรับการจดทะเบียนบริษัทจัดหากิจการเฉพาะกิจ หรือ SPACs ซึ่งหลายแห่งได้อำนวยความสะดวกให้กับสตาร์ทอัพใน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมียูนิคอร์นที่เพิ่งกำเนิดใหม่ หรือสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในรัฐนี้เช่นกัน ได้แก่ ตลาดรถยนต์มือสอง Carro และบริษัทฟินเทค Nium

.

ที่มา : forbes.com