4 เรื่องต้องรู้ เมื่อเอเวอร์แกรนด์ใกล้จะล่มสลาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมืองในวงกว้างตามมา


หนึ่งในเรื่องร้อนแรงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น รวมไปถึงการเงินโลกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในช่วงนี้ คงต้องยกให้ ปัญหาหนี้ของกลุ่มบริษัท China Evergrande ซึ่งกำลังเขย่าตลาดการเงินในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลายคนคงเกิดคำถามในใจว่า แล้วบริษัทซึ่งมีมูลค่าทรัพสินย์มหาศาลขนาดนั้น มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และจะมีอนาคตเป็นอย่างไรต่อไป ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรทราบ 4 ประการเกี่ยวกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่การเป็นหนี้ของพวกเขา กำลังสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งได้รายงานการวิเคราะห์โดยเว็บไซต์ asia.nikkei.com

.

.

Evergrande คืออะไร และความสัมพันธ์ทางการเมืองของผู้ก่อตั้ง Xu Jiayin มีผลอย่างไรต่อเรื่องนี้

Evergrande คือหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ที่เมืองทางใต้ของกวางโจว เริ่มต้นจากกิจการเล็ก ๆ ที่มีพนักงานน้อยกว่าสิบคน ตั้งหลักด้วยคอนโดมิเนียมขนาดเล็กราคาไม่แพง และเติบโตอย่างรวดเร็วด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงทศวรรษ 2000

บริษัททำรายได้ 507.2 พันล้านหยวน (เกือบ 26,000 ล้านล้านบาท) ในปีที่แล้ว และครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองเมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมดในประเทศ

ผู้ก่อตั้งและประธาน Xu Jiayin หรือที่รู้จักในชื่อ Hui Ka Yan ในภาษากวางตุ้ง มีส่วนร่วมในการก่อตั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 1990 และพบว่าที่อยู่อาศัยระดับกลางประสบความสำเร็จอย่างมาก Xu ใช้ประสบการณ์เปิดตัวบริษัท Evergrande จุดเด่นในการบริหารทรัพย์สินของ Xu Jiayin คือการบริหารการจัดซื้อวัสดุในราคาที่ต่ำ

Xu เป็นผู้นำในรายชื่อมหาเศรษฐีของจีนประจำปี 2560 โดย Hurun Report ประเมินว่ามูลค่าทรัพย์สินของ Xu Jiayin ตกราว 1,500 ล้านบาทในปี 2018 เขาได้รับการยอมรับจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าเป็นหนึ่งใน 100 ผู้ประกอบการเอกชนที่โดดเด่นในโอกาสครบรอบ 40 ปีของนโยบาย “การปฏิรูปและการเปิดประเทศ”

เมื่อเขาโด่งดังในโลกธุรกิจ Xu ก็ได้รับเลือกให้เข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือทางการเมืองของประชาชนจีน ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาระดับแนวหน้า และเขาเองก็มุ่งมั่นสู่การเมือง เขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการขับเคลื่อนการต่อต้านความยากจนของจีนและการริเริ่มอื่น ๆ ของรัฐ พร้อมกับการลงทุนในอุตสาหกรรมและการศึกษาระดับภูมิภาค สร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มใหญ่ทางการเมืองในกระบวนการนี้ในเวลาอันรวดเร็ว

หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Xu ได้บุกเข้าในปรพเภทอื่นอีกมากมาย เอเวอร์แกรนด์เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลกว่างโจว เอฟซี แชมป์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย และส่งเสริมวอลเลย์บอลและกีฬาอื่น ๆ ปัจจุบันความสนใจทางธุรกิจของบริษัทมีตั้งแต่สวนสนุกไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า แต่หนี้ที่พุ่งสูงขึ้นทำให้การเงินของเอเวอร์แกรนด์อยู่ในสถานะที่สั่นคลอน

.

.

1. ทำไม Evergrande ถึงมีปัญหา

เมื่อต้นปี 2020 ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้ร่าง “เส้นสีแดงสามเส้น” สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์: อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์สูงสุดที่ 70%  การจำกัดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ 100% และเงินสดอย่างน้อยเท่ากับ เงินกู้ระยะสั้น ซึ่งนั่นทำให้บริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการกู้ยืมจากธนาคาร

Evergrande พยายามแก้ไขด้านการเงินเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านี้ ทางบริษัทได้ลดราคาคอนโดมิเนียมเพื่อขายให้เร็วขึ้นและนำเงินสดมา ผลักดันให้ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์ลดลง 14% เมื่อเทียบปีต่อปีซึ่งอยู่ที่ 8,055 หยวนต่อตารางเมตรในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ในขณะที่สามารถชำระหนี้บางส่วนได้ แต่การปรับตัวก็ยังคงล่าช้าอยู่ Evergrande ยังคงล้มเหลวในการพบกับเส้นสีแดงสองเส้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายนตามที่สถาบันวิจัย Beike กำหนด

บริษัทก่อสร้างและซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกิจกับ Evergrande เริ่มพูดถึงการจ่ายเงินล่าช้า ซึ่งโดยปกติบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้ได้เปรียบ มีอำนาจต่อรองทางการเงินกับซัพพลายเออร์เหล่านี้ ทำให้สมดุลของอำนาจการเงินเปลี่ยนเป็นของฝังซัพพลายเชนแทนในทันที ธนาคารระดับภูมิภาคระงับเงินฝากที่ Evergrande ถืออยู่ ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่ามีปัญหากับเงินกู้

2. เหตุใดปัญหาของ Evergrande จึงกระทบตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างหนัก

ขนาดของหนี้สินได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติผ่านหนี้ต่างประเทศของบริษัทมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ (660,000 ล้านบาท) และสถานการณ์ดังกล่าวเป็นบททดสอบอีกครั้งสำหรับนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่เข้ามามีบทบาทแทรกแซงต่อธุรกิจขนาดใหญ่ในจีน

ท่ามกลางสัญญาณของปัญหาที่เพิ่มขึ้น Evergrande ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 กันยายน โดยระบุว่าต้องเผชิญกับ “ปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ในขณะที่ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล้มละลายที่กำลังจะเกิดขึ้น

บริษัทมีหนี้สินรวมประมาณ 1.97 ล้านล้านหยวน (9.9 ล้านล้านบาท) คิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีน การจัดการกับสถานการณ์ที่ผิดพลาดอาจมีผลร้ายแรงต่อระบบการเงินของประเทศ

สิ่งที่น่าสนใจจากนี้เป็นต้นไปคือ Evergrande จะผิดนัดชำระหนี้จำนวนหนึ่งที่จะถึงกำหนดชำระปลายเดือนนี้และหลังจากนั้นหรือไม่

ความสนใจในชะตากรรมของมันขยายไปไกลกว่าโลกการเงิน ภาวะเงินฝืดที่จะเกิดขึ้นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ผู้บริโภคซื้อไปแล้ว ซึ่งจะเป็นปัญหาอย่างยิ่งในประเทศที่ที่อยู่อาศัยเป็นความมั่งคั่งของคนจำนวนมาก

3. เอเวอร์แกรนด์จะล้มละลายหรือไม่

หากไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การปรับโครงสร้างการล้มละลายก็เป็นทางเลือกหนึ่ง หากเจ้าหนี้ตกลง พวกเขาจะตัดหนี้ และผลักบริษัทเข้าสู่กระบวนการจัดการเพื่อคืนสถานะ HNA Group ซึ่งขาดว่าจะเริ่มกระบวนการนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า

แต่การไปตามเส้นทางนี้ไม่ได้รับประกันว่าการปรับโครงสร้างจะประสบความสำเร็จ หาก Evergrande ยังคงก่อตั้งบริษัทต่อไป ก็อาจถูกเลิกกิจการได้

4. คำถามสำคัญที่ยังไม่มีคำตอบคือรัฐบาลจะเข้ามาช่วยบริษัทหรือไม่

Hu Xijin หัวหน้าบรรณาธิการของ Global Times ในเครือพรรคคอมมิวนิสต์กล่าวในโซเชียลมีเดียว่า Evergrande ไม่ควรพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ในช่วงที่รัฐบาลกำลังปรับโครงสร้างของอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องปกป้องหรือแก้ไขปัญหาของบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะร้ายแรงเพียงใด

ขณะที่ Xi ได้เพิ่มการรณรงค์เพื่อ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ทำให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ตกเป็นเป้าหมายของกฎระเบียบใหม่เพื่อจัดการกับราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งถูกมองว่าเป็นสาเหตุของความไม่เท่าเทียมกันที่เพิ่มขึ้น การช่วยเหลือเอเวอร์แกรนด์จะทำให้การรณรงค์ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ของ Xi มัวหมอง แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถมองข้ามผลกระทบของการล่มสลายของเศรษฐกิจและสังคมของจีนได้

วิกฤตการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นที่ China Evergrande Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเครือข่ายทางการเงินมากที่สุดในโลก กำลังก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนทั่วทั้งตลาดจีนและทำให้เกิดความกลัวว่าจะส่งผลเสียหายต่อระบบการเงินของประเทศ วงการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังดิ้นรนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน ท่ามกลางความวุ่นวายของตลาดจากปัญหาของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง China Evergrande Group นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวจีนต่างต้องพิสูจน์ความแข็งแกร่งทางการเงินโดยต่างก็เร่งประกาศเพิ่มทุนและไถ่ถอนหุ้นกู้

.

.