ส่งออก-นำเข้าจีนมีสัญญาณดี เร่งดันผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูป ใช้ประโยชน์ FTA สร้างแต้มต่อทางการค้า


ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 64) ไทยได้ส่งออกสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปไปจีน มูลค่า 788.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 8.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า พร้อมทั้งสามารถนำเข้าจากจีนมูลค่า 1,203.64 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.9 สินค้าอาหารส่งออกสำคัญของไทยไปจีนมีตั้งแต่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ส่วนสินค้าอาหารนำเข้าสำคัญจากจีน เช่น ผักและผลไม้สด ปลาแช่เย็น แช่แข็ง ปลาแปรรูป และอาหารปรุงแต่ง

ซึ่งนั่นนับว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี ภายหลังจากที่ทั้งจีนและไทยต่างก็ประสบกับปัญหาโรคระบาดที่ยืดเยื่อมากว่า 2 ปี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงได้เร่งเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทย โดยผลักดันสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูป ผ่านการใช้สิทธิประโยชน์จากเงื่อนไขการค้า FTA เพิ่มแต้มต่อส่งออกตลาดจีนช่วงโควิด

ผ่านโครงการ DTN Business Plan Award 2021 “ชี้ช่องโอกาส บุกตลาดด้วย FTA” เตรียมนำผู้ประกอบการ 20 ราย ติวเข้มทำแผนธุรกิจ คัดเลือก TOP 5 จับคู่ธุรกิจออนไลน์กับผู้นำเข้าจีน พร้อมจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีน

ทั้งนี้ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า ตนมีนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งเดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการค้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร และเกษตรแปรรูป ไปตลาดคู่ FTA ของไทย

โดยในปีนี้ ได้มอบหมายให้กรมฯ ดำเนินโครงการ DTN Business Plan Award 2021 “ชี้ช่องโอกาส บุกตลาดด้วย FTA” เพื่อช่วยผู้ประกอบการและผู้ส่งออกในช่วงโควิด-19 โดยเน้นใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน-จีน ที่ปัจจุบันจีนได้ยกเว้นภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าอาหาร เกษตร และเกษตรแปรรูปให้ไทยแล้ว อาทิ สิ่งปรุงรส เครื่องแกงไทยสำเร็จรูป อาหารพร้อมปรุง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและอบแห้ง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสที่ดีให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทย สามารถส่งออกสินค้าศักยภาพแข่งขันในตลาดจีนเพิ่มขึ้น

ทางด้าน นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เสริมว่า ในปีนี้ มีผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยกรมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันคัดเลือก โดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณา เช่น ศักยภาพของสินค้าและความเหมาะสมในการเจาะตลาดจีน รวมถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ เป็นต้น

ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือก 20 ราย จะได้เข้าร่วมกิจกรรม Boot Camp ติวเข้มเรื่องการใช้ประโยชน์ของ FTA การจัดทำแผนธุรกิจ กลยุทธ์เจาะตลาดออนไลน์และออฟไลน์ของจีน และพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดจีน

รวมทั้งจะมีการประกวดการนำเสนอแผนธุรกิจ เพื่อคัดเลือกผู้ประกอบการ 5 รายสุดท้าย เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าจีนในรูปแบบออนไลน์ ในช่วงต้นปีหน้า รวมทั้งจะได้นำสินค้าขึ้นจำหน่ายและทำ Live Sale บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 20 ราย ได้ทางเว็บไซต์ www.dtn.go.th และ Facebook กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ