ศบค.มีมติเห็นชอบ ลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่มถึงตี 3 พร้อมปรับพื้นที่แดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด เตรียมรับเปิดเมือง 1 พย.


วันที่ 14 ต.ค. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม

โดยมีเนื้อหาที่พูดถึงรายละเอียดในวงประชุม ศบค. เรื่องการปรับลดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ซึ่งได้ปรับเป็น 23.00 – 03.00 น.วันรุ่งขึ้น (แต่เดิม 22.00 – 04.00 น.วันรุ่งขึ้น) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้มีการจับตาถึงการพิจารณาผ่อนคลายหลายมาตรการเพื่อให้สอดรับกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1พ.ย.นี้ ที่นายกได้ประกาศไปก่อนหน้านี้

โดยในที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ การเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีแนวโน้มความเป็นไปได้ว่า ในวันที่ 1พ.ย.นี้ จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ 

ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานกิจกรรมในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี ตามที่ได้ปรับล่าสุด

มาตรการ การปรับเขตพื้นที่ควบใหม่

– สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน

– พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน

– พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน

– พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน

– และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน

รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไปกลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ ได้ขยับให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.

พื้นที่สีแดงเข้มล่าสุด ประกอบด้วย

กรุงเทพ, กาญจนบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครนายก, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, ปราจีนบุรี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, ยะลา, ระยอง, ราชบุรี, สงขลา, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สระบุรี, และปรับจันทบุรี, นครศรีธรรมราช เข้ามาอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่มเติม จากการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นล่าสุด

.

.

.

.

.