สมาคมธุรกิจถนนข้าวสารวอนรัฐให้ดื่มในร้านได้ เผยสถานบันเทิง 90% ยังคงตัดสินใจปิดต่อไป หากยังไม่คลายล็อกการดื่มแอลฯในร้าน


หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของโควิด ตั้งแต่ช่วงแรกที่โรคร้ายนี้ได้เข้ามาในประเทศของเรา ก็คือธุรกิจสถานประกอบการให้บริการความบันเทิง ซึ่งถูกระบุให้เป็นกิจการแรกๆ ที่ต้องควบคุมจนต้องพักกิจการกันไปหลายเจ้า ประกอบกับคำสั่งห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำทับไปด้วยแล้ว ก็เรียกว่าแทบจะต้องปิดประตูไปโดยปริยาย เนื่องจากรายได้หลักมาจากการให้บริการนักดื่ม นักเที่ยว การห้ามเช่นนี้ทำให้ไม่คุ้มที่จะเปิดร้านต่อไป

และหากจะให้จำแนกลงไปในพื้นที่พิเศษ ดังเช่นผู้ประกอบการธุรกิจในระแวกถนนข้าวสารด้วยแล้ว ยิ่งเห็นผลกระทบมากยิ่งขึ้น อันจะมาจากเพราะกรุงเทพนับว่าเป็นพื้นที่ไข่แดงที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักและต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถนนข้าวสารจึงเสมือนพื้นที่ร้างไปในทันใด และอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลเป็นแรงกระแทกโดยตรง มาจากการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังไม่สามารถเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพชั้นในได้อย่างเสรี ภายใต้ข้อจำกัดที่รัฐได้วางมาตรการไว้

แต่เราก็ได้รับข่าวดีจากนายกฯ ที่ได้ออกแถลงการณ์ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศของเราได้ โดยไม่ต้องกักตัว โดยจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. นี้เป็นต้นไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงจำกัดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานประกอบการไว้ ซึ่งมีแผนจะเริ่มให้จำหน่ายได้ภายในวันที่ 1 ธ.ค. จะอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ รวมทั้งจะอนุญาตให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการได้ภายใต้มาตรการสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่

ทั้งนี้ มีความเห็นจาก นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารว่า เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ และเปิดสถานบันเทิงได้ในเดือนธันวาคม เพราะตลอดระยะเวลาที่มีการระบาดธุรกิจสถานบันเทิง ร้านอาหารกลางคืนรับเต็มๆ ซึ่งทั้งปีนี้ธุรกิจบันเทิงได้เปิดทำการเพียงเดือนเดียว ก่อนจะถูกสั่งปิดยาว จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง

แต่ประเด็นของการขายเครื่องดื่มในร้านอาหาร ควรอนุญาตให้ขายได้ เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนมากชอบดื่มแอลกอฮอล์ เพราะ 80% ของรายได้บนถนนข้าวสาร มาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อีก 20% มาจากนักท่องเที่ยวคนไทย ทั้งยังเป็นพื้นที่เศรษฐกิจกลางคืน หากเปิดประเทศแต่ยังไม่สามารถขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารกว่า 90% ก็ยังยืนยันที่จะปิดร้านต่อไป

สำหรับสถานการณ์ที่ผ่านมา วิกฤติครั้งนี้นับว่าเป็นอีกครั้งที่หนักหน่วงที่สุด ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการหลายคนไปต่อไม่ไหว เลิกธุรกิจสายบันเทิงไปหลายราย บางรายเจ็บหนักถึงขั้นติดลบแม้เคยได้กำไรในกิจการนี้มาตลอด การเปิดประเทศที่จะถึงอันใกล้นี้ จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่มาต่อลมหายผู้ประกอบการที่ใกล้อ่อนแรง ให้ยังคงหล่อเลี้ยงธุรกิจต่อไปได้ จนกว่าเราจะรอดพ้นจากโรคระบาดโควิด 19 นี้ ไปพร้อม ๆ กัน

.