พาไปรู้จัก “MyShop” จาก LINE SHOPPING ระบบจัดการร้านค้าแบบครบวงจร เพื่อช่วย Micro SME เติบโตต่อเนื่องอย่างไม่มีสะดุด


Social Commerce เทรนด์มาแรงในยุคนี้ LINE SHOPPING สร้าง MyShop เครื่องมือจัดการระบบร้านค้าแบบ ครบวงจร เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ Social Commerce ส่งเสริม Micro SME ให้ก้าวต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด

การค้าขายบนออนไลน์ทที่ผ่านมาตลาด E-commerce ในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขาย 270,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาด Social Commerce ที่สูงถึง 62% หรือประมาณ 167,400 ล้านบาท และ e-marketplace กว่า 38% รับกับพฤติกรรมของคนไทยที่นิยมแชทมากกว่า เพราะรู้สึกเข้าถึง ใกล้ชิด ทักไปมีคนตอบ ไม่ใช่การนั่งดูรีวิว แล้วกดซื้ออย่างเดียว ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของ MyShop เครื่องมือจัดการระบบร้านค้าแบบครบวงจรของ LINE SHOPPING ที่มียอดร้านค้าสมัครใช้งานเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า และจำนวนร้านค้าใช้งานแอคทีฟเติบโตก้าวกระโดดกว่า 257% โดยวัดผลจากการเปรียบเทียบช่วงเวลาเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 – 2564 ที่ผ่านมา

.

.

นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวกับ Smart SME ว่า “การทำธุรกิจ Social Commerce ถือว่าเป็น Trend ขนาดใหญ่มากในยุคนี้ ผู้ประกอบการต่างเดินหน้าเข้าสู่ช่องทางขายนี้ในหลากหลายแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของสินค้า สิ่งที่เป็นจุดแข็งของ Social Commerce คือคนไทยคุ้นชิน สามารถให้ผู้ขายและผู้ซื้อพูดคุย (Chat) สอบถามรายละเอียดแบบเรียลไทม์ ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด ดังนั้นความท้าทายของการค้าขายบน Social Commerce คือเจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องทำให้คนขายได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่องที่สุด ในขณะที่ฝั่งผู้ขายก็ต้องการเข้าถึงลูกค้าให้ได้ง่ายและมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจาก e-marketplace ที่คนตั้งใจแล้วว่าต้องการซื้อสินค้าอะไร แบรนด์ไหน แล้วเข้ามาซื้อแล้วออกไป เน้นการแข่งขันที่ราคา ซึ่งแตกต่างจาก Social Commerce ที่การสื่อสารกันระหว่างผู้ค้าและผู้ซื้อมีความสำคัญ เป็นกุญแจสำคัญของการปิดการขาย ผู้ขายต้องสร้างเรื่องราวของสินค้าจูงใจให้ผู้ซื้อพึงพอใจ และเมื่อพึงพอใจแล้ว ยอดของการซื้อจะซื้อในปริมาณที่มาก ซึ่งเหมาะกับสินค้าที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่น ผู้ขายต้องการสร้างคุณค่าของแบรนด์ ตัวอย่างเช่นสินค้าในหมวดสุขภาพ เครื่องสำอางที่มีรายละเอียดมาก ต้องการความมั่นใจของผู้บริโภคในระดับสูง การให้ข้อมูลผ่าน Chat มีความจำเป็น”

นายเลอทัด กล่าวเสริมว่า LINE SHOPPING มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมคอมเมิร์ช Social Sellers บน LINE SHOPPING เพื่อตอบสนองกับธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SME) ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวเป็นธุรกิจที่สร้างขึ้นจาก Passion มีความคิดสร้างสรรค์ คล่องตัวสูง แต่มีเงินทุนจำกัด ซึ่งผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวมีส่วนสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.7% จึงวางกลยุทธ์ในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการขนาดย่อย หรือ Micro SME โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยกลยุทธ์ 3 แกนหลัก ได้แก่

1. Freedom of Entrepreneurship ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และแข่งขันกับ e-marketplace ได้

2. Lower Cost of Doing Business ให้บริการช่องทางการขายฟรี ง่ายและสะดวก บนแพลตฟอร์ม LINE ที่มีผู้ใช้กว่า 50 ล้านคน ลงทุนน้อย ขายได้รวดเร็ว พร้อมเสาะหาพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน อาทิ การร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด คิดค่าส่งสินค้าเริ่มต้นที่ 19 บาท

3. Increase Connection Between Business and People สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างนักช้อปกับผู้ขาย ซึ่งการสร้าง Engagement ถือเป็นเสน่ห์ของ Social Commerce ที่ทำให้นักช้อปและผู้ขายบนแพลตฟอร์มมีพื้นที่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในระยะยาว

.

.

ในรอบปีที่ผ่านมา LINE SHOPPING ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าถึง 200,000 ร้านค้า มีจำนวนลูกค้า (Buyer) สูงถึง 7 ล้านราย โดย 5 กลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุด ได้แก่ แฟชั่น สุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และไอทีแกดเจ็ต มีมูลค่าการจ่ายเพื่อซื้อสินค้าใน 1 ครั้ง เฉลี่ยสูงถึง 1,000 – 2,000 บาท และช่วงเวลาที่คนนิยมซื้อของมากที่สุด อยู่ในช่วงเวลา 12:00 น. และ 20:00 น. นักช้อป 80% ชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านธนาคาร และ 20% ชำระผ่านเครดิตการ์ดและ Rabbit LINE Pay

อีกหนึ่งจุดเด่นของการค้าขายบน LINE SHOPPING คือการที่ร้านค้าได้จะได้ใช้เครื่องมืออย่าง Myshop ซึ่งช่วยให้งานหลังบ้านไม่เป็นงานที่ยุ่งยากและจบในที่เดียวแล้ว ร้านค้ายังสามารถเก็บ data เพื่อวิเคราะห์สถิติการขายสินค้า พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้ายุคใหม่ที่ตัดสินใจเร็ว เปลี่ยนแปลงไว สร้างประสบการณ์ที่ดีกับการจับจ่ายใช้สอยของคนยุคใหม่

กลไกส่งเสริมที่มาเพิ่มศักยภาพของ MyShop ให้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายและสร้างมูลค่าการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อโอกาสทางธุรกิจให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ คือ การผสมผสาน Social Commerce เข้ากับ Chat Commerce ที่ปัจจุบันและอนาคตรูปแบบของการทำธุรกิจบนออนไลน์ในธุรกิจต่าง ๆ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้น ทั้งแชท ซื้อ ขาย ครบ จบในที่เดียว โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอปฯ พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยสามารถให้ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบหลังบ้านที่จัดการได้ทั้งทาง desktop หรือ แอปพลิเคชั่น MyShop ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถดำเนินธุรกิจผ่านโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลาที่ต้องการ

สำหรับระบบการทำงานของ MyShop ไม่ยุ่งยากและเข้าใจง่าย เป็นเครื่องมือที่เปรียบเสมือนโซลูชั่นแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการทั้งหน้าร้านและหลังร้าน การจัดการสต็อกสินค้า การออกใบสรุปออเดอร์ให้ลูกค้าผ่านแชทได้ทันที ระบบจดจำที่อยู่ของลูกค้า เป็นต้น ทำให้กระบวนการซื้อขาย พูดคุย และการชำระเงิน การตรวจสอบสถานะสินค้า สร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งออนไลน์ที่แสนง่ายให้กับผู้ซื้อได้ครบจบในแอปฯ เดียว ส่วนเป้าหมายในอนาคต LINE SHOPPING มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการทำงานของ MyShop โดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้สอดรับกับ Internet of Things หรือ IoT ที่จะเข้ามามีอิทธิพลต่อระบบการค้า Social Commerce ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบ payment ระบบการจัดการสต๊อก บัญชีหลังบ้าน (POS) ตลอดจนการให้บริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และราคาประหยัด เพื่อให้เป็นแต้มต่อด้านการแข่งขันให้กับสังคมผู้ขายใน LINE SHOPPING”

.

.

นายเลอทัดกล่าวว่า “ดังที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ว่าเสน่ห์ของ Social Commerce คือการสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สนุกสนาน จึงได้นำเอา LINE POINTS มาจัดแคมเปญกระตุ้นการซื้อ ซึ่งนอกจากเป็นการช่วยให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่ม Basket Size ได้ถึง 50% และ เพิ่มอัตราการกลับมา ซื้อซ้ำถึง 12% ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำการค้าบน Social Commerceในยุคนี้ที่มีแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมากมาย มีการแข่งขันที่เข้มข้น การสร้างบรรยากาศความสนุกสนานและผสมผสานกับความบันเทิงถือว่าเป็นกุญแจสำคัญสร้างความสำเร็จให้กับ LINE SHOPPING

นายเลอทัด กล่าวเสริมว่า “LINE SHOPPING ยังได้พัฒนาประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ขายใหม่ ๆ อาทิ Curated Browsing Experience สัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบ Seamless ผ่านการจัดหมวดหมู่สินค้าอย่างเป็นระบบระเบียบและสบายตา Easier Discovery เพิ่มช่องทางเข้าถึงร้านค้าด้วยฟีเจอร์ Search นอกเหนือจากการแอด LINE OA ของร้าน Campaign Support กับการสร้างช็อปปิ้งธีมในแต่ละเดือนเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย พร้อมสมนาคุณผู้ซื้อด้วย LINE POINTS เพื่อสร้าง Traffic และการซื้อซ้ำ นอกจากนี้ยังเตรียมจัดกิจกรรมและสื่อการสอนผ่านออนไลน์ที่ดีไซน์มาเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SME) โดยเฉพาะ เพื่อให้เข้าใจเทรนด์และสามารถสร้างกลยุทธ์การขายของตัวเองได้ง่ายขึ้น”

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงศักยภาพของ LINE SHOPPING ที่เป็นทั้งทางรอดสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยที่เป็นภาคธุรกิจที่มีความพิเศษเฉพาะตัว และเป็นทั้งแหล่งรวมร้านค้าโซเชียลที่ให้นักช็อปได้สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของไทย แนวทางการพัฒนาของ LINE SHOPPING ที่ยึดมั่นพันธกิจในการผลักดันผู้ประกอบรายย่อยให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปและสามารถแข่งขันได้ จึงเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำแพลตฟอร์ม Social Commerce ตัวจริงที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้ก้าวต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด

ล่าสุด LINE SHOPPING ส่งแคมเปญ “สุดยอดนักขาย LINE SHOPPING” เพื่อกระตุ้นให้ร้านค้าที่เปิดใช้ LINE OA อยู่ก่อนแล้ว ได้เริ่มสมัครใช้ MyShop เพื่อใช้จัดการธุรกิจอย่างชาญฉลาดและสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า โดยร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมแคมเปญจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ

– เงินสนับสนุนร้านค้ามูลค่ารวม 1,800 บาท เป็นระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน
– เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการใช้บริการ Rabbit LINE Pay ระยะเวลา 30 วัน
– โอกาสได้รับการโปรโมทร้านค้าผ่านสื่อต่างๆ ของ LINE SHOPPING และขึ้นขายในอีเวนท์ Hug SMEs
– ขายฟรี ไม่มีค่า GP
– คลาสเรียนฟรีจาก LINE SHOPPING Seller Academy

พร้อมรับส่วนลดค่าจัดส่งพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ 19 บาท เมื่อใช้บริการส่งไวถึงภายใน 1-2 วันทำการ ถึง 31 ธันวาคม 2564 ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://linemyshop.com/campaign/lineshopping-seller-campaign-sep-oct-2021 

.