จีน ยังคงเดินหน้านโยบายการควบคุมและป้องกันโควิด-19 “Covid Zero” เพียงประเทศเดียว จาก 205 ประเทศซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา จีนได้เผยแพร่รายงานการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในเขตซีเซี่ย ของนครอิ๋นชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
การดำเนินการดังกล่าว สอดคล้องกับที่ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้เผยแพร่บทความ Covid Zero ประเทศสุดท้ายในโลก ที่ระบุว่า
จีนล็อกดาวน์เมืองชายแดนมองโกเลียทันที เพื่อเดินหน้านโยบายต่อสู้กับโควิดแบบเป็นศูนย์ (Covid Zero) ซึ่งหลายประเทศจาก 205 ประเทศ ที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด ได้ตั้งเป้าหมายในช่วงเริ่มต้นการระบาด ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนนโยบาย
ที่ผ่านมา เมื่อโควิดเริ่มกลายพันธุ์ มีการแพร่เชื้อที่รวดเร็วกว้างขวางขึ้น และวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% หลายประเทศได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย จากเข้มข้น เช่น สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ มาเป็นผ่อนคลาย ควบคุมให้มีการติดเชื้อในระดับหนึ่งที่ยอมรับได้ และดำเนินกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจต่อไป
ขณะนี้เหลือเพียง ประเทศจีน เป็นประเทศเดียวในโลกหรือเป็นประเทศสุดท้าย ที่ยังคงใช้นโยบาย Covid Zero และทำได้ดี โดยล่าสุดทางการจีน ได้ประกาศล็อกดาวน์ ตามนโยบายเดิมคือ รวดเร็ว เข้มข้น ทันที และคุมให้อยู่ ในพื้นที่เขต Ejin มณฑลอินเนอร์มองโกเลีย (Inner Mongolia) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับชายแดนประเทศมองโกเลีย
ทำให้ประชาชน 35,700 คน จะต้องอยู่แต่ในบ้าน ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.64 เป็นต้นไป โดยมีคำเตือนว่า ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว จะต้องรับผิดทางอาญาด้วย
เหตุที่ต้องมีการล็อกดาวน์ในเขตดังกล่าว เนื่องจากพบว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศจีนนั้น 1ใน 3 มีที่มาจากเขต Ejin ซึ่งเป็นคลัสเตอร์สายพันธุ์ “เดลต้า” ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากถึง 11 มณฑล จำนวน 38 ราย โดยมีครึ่งหนึ่งมาจากมณฑลอินเนอร์มองโกเลีย
ในกรุงปักกิ่งเมืองหลวงเอง ก็มีผู้ติดเชื้อราว 10 ราย และพบว่าเกือบทั้งหมด มาจากทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือคือ มณฑลอินเนอร์มองโกเลีย
โดยกรุงปักกิ่งได้ออกประกาศมาตรการ ห้ามประชาชนจากเมืองที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าสู่กรุงปักกิ่ง หลังจากพบว่าการติดเชื้อ มักจะมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางข้ามเมืองหรือมณฑล แต่อนุญาตให้เข้ามาได้ในกรณีที่จำเป็น ซึ่งจะต้องมีผลตรวจเป็นลบ และจะถูกประเมินทางสาธารณสุขเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะที่อยู่ในกรุงปักกิ่งด้วย
จากนโยบายดังกล่าว จึงทำให้ขณะนี้จีน ยังเป็นประเทศเดียวในโลก ที่ได้ตั้งเป้าหมาย จะกำจัดเชื้อโควิด-19 ให้หมดไปจากประเทศ โดยไม่ยอมรับนโยบายการอยู่ร่วมกันกับโควิดเหมือนกับบางประเทศ
โดยใช้มาตรการเข้มข้นแบบ รวดเร็ว ทันที เสมอ เมื่อพบเคส ได้แก่ ห้ามออกจากบ้าน ห้ามเดินทางข้ามเมือง ทดสอบเชิงรุกทุกรายในพื้นที่ที่พบการติดเชื้อ และทำซ้ำหลายครั้ง จนกว่าจะแน่ใจ
ทำให้ขณะนี้ประเทศจีนอยู่ในการติดเชื้อลำดับที่ 113 ของโลก มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 39 ราย สะสม 96,797 ราย และเสียชีวิต 4636 ราย ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากร 1,439 ล้านคน
ที่มา : ThaiQuote