ปี 64 “กัญชาไทย” โกยรายได้ 7 พันล้าน


แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาไทย จะต้องเผชิญกับวิกฤตโควิดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก จนทำให้ “กัญชาไทย” ที่ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงมากมายกลับต้องซบเซาลง

 

แต่กลับพบว่า “กัญชาไทย” ก็มีการเติบโตที่สวนกระแสกับธุรกิจตัวอื่นๆ แม้ว่าธุรกิจกัญชา อาจจะอยู่ในมือของกลุ่มทุนเพียงไม่กี่รายก็ตาม

 

ธุรกิจที่เติบโตของ “กัญชา-กัญชง” นั้น เป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มาจากส่วนที่ถูกกฎหมาย น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง, สารสกัดแคนนาบิไดออล (CBD) และส่วนที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ เช่น ใบ กิ่งก้าน ที่ได้จากการปลูกในประเทศ

 

ทั้งนี้ข้อมูลจากองค์การอาหารและยา (อย.) พบว่า มีผู้ประกอบการให้ความสนใจมายื่นขอจดแจ้งเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อนุมัติแล้ว 218 ตำรับ

 

โดยมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างเครื่องสำอาง จากน้ำมันจากเมล็ดกัญชง เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม วัตถุดิบจากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.) เครื่องสำอางจากใบกัญชาและกัญชง เช่น สบู่ แชมพู วัตถุดิบส่วนใหญ่จากวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับอนุญาตปลูก

 

วันนี้ความคืบหน้าของกัญชา เป็นอย่างไร จากข้อมูล เราพบว่า มีการปลูกกัญชาของประชาชนได้อย่างถูกกฎหมายแล้วกว่า 1.6 ล้านตร.ม.

 

มีการเปิดคลินิกกัญชาโดยรัฐแล้วใน 760 โรงพยาบาลทั่วประเทศ มีประชาชนกว่า 7.6 หมื่นคน เข้าถึงการใช้บริการและการรักษาโรคจากคลินิกกัญชา

 

เหล่านี้ล้วนเป็นการเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ของประชาชน ในอีกแง่มุมหนึ่ง การนำวัตถุดิบที่ไม่ผิดกฎหมาย เช่น ใบ ก้าน กิ่ง ราก มาแปรรูปและใช้ประโยชน์ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก โดยในปี 64 เราพบว่าสินค้าที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม มีมูลค่าในตลาดสูงถึงกว่า 7,000 ล้านบาทเลยทีเดียว