ไทยเก็บภาษี e–Service เพียงเดือนแรก เรียกเงินเข้ารัฐกว่า 686 ล้านบาท เกินเป้าที่หวัง 65% จากยอดผู้จดทะเบียน 106 ราย


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากรได้ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับ การบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service: VES) ที่ให้บริการกับผู้ใช้บริการในประเทศไทยนั้น ในเดือน ต.ค.2564 ซึ่งเป็นเดือนแรก มีแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนแล้วจำนวน 106 ราย และมียอดค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวมกว่า 9,800 ล้านบาท คิดเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระในเดือนแรกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 686 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ถึง 65%

.

.

ทั้งนี้ กฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ (VAT for Electronic Service : VES) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นมา กับแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการที่เป็นต่างชาติ ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยและมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบ VES (VAT for Electronic Service) บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้ผู้ประกอบการไทยที่ให้บริการออนไลน์เหมือนกัน และจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้อง

สำหรับใครที่ต้องการทราบหลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติเพื่อยื่นจดแจ้งภาษีออนไลน์ สามารถศึกษารายละเอียดต่อได้ที่ : สรรพากร เริ่มเก็บภาษีออนไลน์ “e-Service” แล้ว มีผลพรุ่งนี้ (1 ก.ย.64) เป็นต้นไป พร้อมอธิบายถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเก็บภาษี

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการต่างประเทศที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ บริการโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) บริการขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) บริการแพลตฟอร์ม สมัครสมาชิก เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม (Subscription) บริการแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลาง เช่น บริการขนส่ง (Peer to Peer) และบริการแพลตฟอร์มจองที่พัก โรงแรม ตั๋วเดินทาง (Online Travel Agency) ที่ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย (ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นอกจากภาษีนี้จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันแล้ว ภาษี e-Service ยังเป็นการเพิ่มรายได้ทางหนึ่งให้กับประเทศไทย อีกทางหนึ่งด้วย รวมทั้งจะช่วยให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลรายได้ ของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่จะสามารถนำไปใช้ในการคำนวณเป็นฐานภาษีใหม่ที่จะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งของประเทศไทยในอนาคต

นายเอกนิติ กล่าวว่า การจัดเก็บภาษี e-Service จากผู้ประกอบการต่างประเทศหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ กับผู้ใช้บริการในประเทศไทย ที่เก็บรายได้ทะลุเป้าในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นเดือนแรกของการชำระภาษี ทำให้คาดว่าทั้งปีกรมสรรพากร น่าจะสามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ต่างประเทศประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท