“ณัฐพล เกษมวิลาศ” ซีอีโอคนใหม่ แห่ง ดีวี8 กับการมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมยั่งยืน


สัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ Smart SME ขอพาทุกคนไปรู้จักกับผู้บริหารหนุ่ม ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจในธุรกิจ รวมถึงคนรอบข้างและสังคม คุณกอล์ฟ – ณัฐพล เกษมวิลาศ ซีอีโอคนล่าสุดของบริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน)

 

เส้นทางการก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหาร DV8

เราเห็นว่าบริษัทมีสิ่งที่ต้องทรานส์ฟอร์มรอบด้านเพื่อการก้าวต่อไปอย่างมั่นคง และเราก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น จึงต้องการเข้ามาช่วยปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากหลังจากเรียนจบปริญญาตรีจากสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่อายุ 19 ปี ได้ผ่านการทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ มามากมาย ตั้งแต่งานระดับล่างสุดที่ต้องใช้แรงกาย ไปจนถึงประสบการณ์การบริหารธุรกิจโรงแรมของครอบครัวที่ประเทศมอนเตเนโกรในยุโรปตะวันออก และหลังจากหายขาดจากการป่วยเป็นเส้นเลือดขอดในสมอง เราจึงมองว่าจะทำยังไงให้ธุรกิจของ ดีวี8 เดินต่อไปได้ โดยมองจากแพชชั่นในเรื่องเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงโอกาสการสร้างผลกำไรทางธุรกิจ และการเติบโตไปพร้อมกับสังคม

DV8 ทำธุรกิจอะไรบ้าง

บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) เราเป็น Total Solution for Innovative Media, Content Creator and Technology โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน หลัก ๆ ได้แก่หมวดความบันเทิง อย่าง DV8 – Instore Radio ผู้นำด้านสื่อเสียง ณ จุดขายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผ่านช่องทางของเซเว่น อีเลฟเว่น, ท็อปส์, บิ๊กซี, แมคโครและแฟมมิลี่มาร์ท รวมแล้วมากกว่า 4,500 สโตรส์ทั่วประเทศ

ถัดมาคือ DV8 – Activation เราเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์เกี่ยวกับกิจกรรมความบันเทิงและการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ผ่านกิจกรรมออนไลน์ออฟไลน์, อีเวนท์, โรดโชว์, คอนเสิร์ต, ซีรีส์และอื่น ๆ

ทั้งในปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนขยายธุรกิจหลักไปสู่กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม อย่าง DV8 – IT Solution ซึ่งเป็น One Stop IT Solutions โดยจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับแนวหน้า ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีที่เชื่อมระบบวิเคราะห์วิดีโอด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้งานบนพื้นที่ของคลาวด์ (Cloud Storage) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้กับชุมชนขนาดเล็ก-ใหญ่ สามารถพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการระดับ Enterprise ทั้งยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มการระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Identity Platforms) อีกด้วย

อีกส่วนคือ DV8 – Cannabis Trading เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรประเภทกัญชง กัญชาและกระท่อม เนื่องจากเรามีความเชื่อมาตลอดว่าพืชเหล่านี้เป็นสมุนไพรที่ใช้สำหรับการรักษา หรือแม้แต่เห็ดเมาก็ตาม ถ้าเราใช้ในสัดส่วนที่เหมาะสมก็สามารถช่วยรักษาโรคได้ ยกตัวอย่างโรคซึมเศร้าที่ผมเคยเป็นก็ดีขึ้นด้วยสมุนไพรเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งเราได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในมหาลัยชั้นนำของประเทศ เพื่อนำนวัตกรรมและความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนโครงสร้างทั้งหมดใน Ecosystem ของกัญชา ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการปลูก การเก็บเกี่ยว และผลผลิต เพื่อเพิ่มพูนคุณค่าของการสกัดกัญชาให้เป็นสากล นำไปสู่การกระจายรายได้ให้ครอบครัวเกษตรกรในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ในสถานการณ์โควิด ได้รับผลกระทบอย่างไร

ในช่วงโควิดนี้ธุรกิจเราก็ได้รับผลกระทบ แต่เรามองว่าในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส ดังนั้นเราต้องดิสรัปตัวเราเองก่อน เพื่อให้เราอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้ ซึ่งอะไรที่เรามองไม่เห็นโอกาส เราก็จะไม่ทำ

ทิศทางการปรับตัวของ DV8 จะเป็นอย่างไรในอนาคต

ไม่มีใครสามารถคาดเดาอะไรได้ และเราจะไม่ทำตามเทรนด์โลก แต่เราจะคิดนอกกรอบแล้วมองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่มีความยั่งยืน และที่สำคัญสังคมต้องได้รับประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ

DV8 ใช้เทคโนโลยีมาสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจยังไงบ้าง

ในวันที่จะเข้ามาบริหาร เราต้องดูว่าธุรกิจเราจะใช้เทคโนโลยีอะไรเข้ามาอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาให้กับการทำงานภายในองค์กรและเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าได้บ้าง ยกตัวอย่าง เช่น การจัดเก็บข้อมูลหรือกระจายข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ (Cloud storage) และการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ (Data Analytics) เนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทุกอย่างจึงถูกดิสรัปทุก ๆ ปี อย่างปีนี้คนพูดถึง Cryptocurrency แต่ในอนาคตก็จะถูกดิสรัปด้วยเทคโนโลยี Quantum ซึ่งเราก็มีพาร์ทเนอร์เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีนี้จากประเทศอิสราเอล เป็นทีมนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ กุญแจสำคัญ คือ เรามองว่าการมีพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายด้านก็จะทำให้เราเติบโตไปอย่างยั่งยืนมากกว่าการเดินไปเพียงลำพังแน่นอน “ผมเชื่อว่า การทำธุรกิจในยุคนี้ เป็นการพึ่งพากันและกัน มากกว่าการแข่งขัน”

การสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมที่ DV8 จะทำในอนาคต

ขอยกตัวอย่าง ธุรกิจกัญชาและกัญชง เราได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรในประเทศเพื่อเพาะปลูก แล้วเราก็รับซื้อในราคาสูงกว่าท้องตลาด รวมไปถึงการรับซื้อขยะทางการเกษตรมาทำประโยชน์ต่อ นั่นเพราะเราอยากให้เกษตรกรเติบโตไปพร้อมกัน บวกกับเราได้เห็น Pain Point ของเกษตรกรไทยหลายด้าน จึงไม่ต้องการแสวงหาผลกำไรจากคนรากหญ้า แต่จะมุ่งเน้นให้เกิดการพึ่งพากันในรูปแบบ B2B เพื่อสร้างความยั่งยืนร่วมกัน นอกจากนี้ผมยังมีความสนใจในด้านการทำกิจกรรม CSR ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนการศึกษา มอบหนังสือเรียน คอมพิวเตอร์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมทักษะและการศึกษาของเด็กไทย รวมไปถึงการเข้าไปบำรุงรักษาอาคารสถานที่ให้กับโรงเรียนในต่างจังหวัด ซึ่งการเข้าไปของเราไม่ได้เป็นการไปทุ่มเงินล้านสองล้านแล้วจบ แต่เรามองว่าการให้รูปแบบนี้จะเกิดความยั่งยืนและส่งผลกับเด็กโดยตรงมากกว่า

“เราต้องการมอบการศึกษาที่ดี เพื่อมอบโอกาสให้เขามีอนาคต” ณัฐพล เกษมวิลาศ

 

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ QR Code ด้านล่าง

 

.