สำนักงานสลากฯ ลุยแก้ปัญหาสลากเกินราคา หวังกู้ศรัทธา “ตลาดนักเสี่ยงโชค” ดันเข้าสู่การซื้อขายบนแพลตฟอร์มดิจิตัล


นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และพันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อสื่อมวลชนถึงมาตรการในการแก้ปัญหาสลากเกินราคา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว

โดยนายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กล่าวถึงปัญหาสลากเกินราคาในปัจจุบัน ซึ่งสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีมาตรการและแนวทางเพื่อป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของปัญหาสลากเกินราคาในขณะนี้ นอกจากความต้องการตัวเลขของผู้ซื้อสลากแล้ว จากสถานการณ์โควิด ทำให้มีผู้สนใจหันมาประกอบอาชีพจำหน่ายสลากมากขึ้น ทำให้สลากในตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขายซึ่งมีจำนวนมากขึ้น และส่วนใหญ่ไม่มีสลากของตัวเอง ต้องไปรับมาจำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ต้องขายสลากในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับมีช่องทางการจำหน่ายแบบใหม่ๆ ทำให้ปริมาณสลากเป็นที่ต้องการมากขึ้น

คณะกรรมการสลากฯ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานฯ หาแนวทางและมาตรการ เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว ล่าสุด คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกำหนดโรดแมป ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แนวทางประกอบด้วย

(1) การขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80”

(2) การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย

(3) การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงรายละเอียดของ 3 แนวทาง เริ่มจาก แนวทางแรก คือ การขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” ไปทั่วประเทศ ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยเชิงลึก พิจารณาเพิ่มเขต/อำเภอละ 1 จุด จากรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละเขต/อำเภอแล้ว ส่วนในเชิงกว้าง คือให้เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 75 จังหวัด อำเภอละ 1 – 2 จุด รวมจำนวนไม่เกิน 1,000 จุด

สำหรับแนวทางที่สอง คือ การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย โดยสมัครผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลผู้สมัครมาคัดกรองคุณสมบัติ จากนั้นถ้ามีผู้สมัครเกินจำนวนจะใช้วิธีเรียงลำดับแบบสุ่มหรือ Random sort ทั้งส่วนกลางและรายจังหวัด คาดว่าจะสามารถได้รายชื่อผู้ลงทะเบียน และเริ่มทำรายการได้ตั้งแต่สลากงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

ในส่วนของแนวทางที่ 3 เรื่องของการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น โดยที่ลักษณะของสลากยังคงเป็นสลากประเภทและรูปแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน จึงสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม วิธีดำเนินการเริ่มจากตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม มอบสลากให้สำนักงาน ฯ นำเข้าระบบ โดยสำนักงานฯ เก็บสลากตัวจริงไว้เพื่อใช้เป็นเป็นหลักฐานในการรับเงินรางวัล ประชาชนที่ต้องการซื้อสลากในระบบนี้ จะต้องลงทะเบียนผู้ซื้อก่อนและจ่ายเงินเข้าบัญชีตัวแทนจำหน่าย ข้อดีของระบบนี้ ระบบการสั่งซื้อจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายได้ และเมื่อถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนให้ติดต่อขอรับเงินรางวัล

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ปัญหาสลากเกินราคาต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ จากการกำหนดโรดแมป ทั้ง 3 แนวทางในวันนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ขายสลากนอกระบบ และผู้จำหน่ายในส่วนของตลาดดอทคอมต่างๆ และจะทำให้ตลาดนี้ต้องขายในราคา 80 บาท

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นั้น รูปแบบสลากใบยังคงมีจำหน่ายเหมือนเดิม แต่จะดูแลให้อยู่ในราคาใบละ 80 บาท ส่วนรูปแบบขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เอง จะมีการพิจารณาสัดส่วนการจำหน่ายแบบใบและแบบผ่านแพลตฟอร์มให้มีความเหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น แม้ว่าในเบื้องต้น สำนักงานฯ เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นสลากแบบเดิมแต่เปลี่ยนช่องทางการจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ จะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบในส่วนของขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

กรรมการและโฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ปริมาณสลากปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับ ขณะนี้ ถือว่าเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของคนซื้อ และต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขอยืนยันว่าผู้ค้าในระบบเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการจะมีการให้ความรู้ในการใช้งานระบบด้วย

.

.

.

.

.

.

.

.

.