รู้จัก “เสี่ยหมี” นักธุรกิจใจรักฟุตบอลผู้เสกความสำเร็จให้เชลซีที่ทุกอย่างใกล้เป็นอดีต


ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ลุกลามออกไปในวงกว้าง ไม่แค่เฉพาะการเมือง เศรษฐกิจ เท่านั้น แต่ยังเหมารวมไปยังวงการอื่น ๆ แม้กระทั่งกีฬาที่มักถูกยกให้อยู่เหนือทุกเรื่อง ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกัน

ก่อนหน้านี้ ทีมชาติรัสเซีย และสโมสรจากรัสเซียถูกแบนไม่ให้เข้าทำการแข่งขันฟุตบอลทั้งในรายการที่ฟีฟ่า และยูฟ่า เป็นผู้จัด นั่นหมายความว่าคอฟุตบอลอาจจะไม่เห็นทีมชาติรัสเซียลงแข่งขันเกมในระดับนานาชาติจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมติ

เช่นเดียวกับโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่ไม่รอดถูกกดดันอย่างหนักจนสุดท้ายต้องออกมาประกาศขายสโมสรเชลซีเพื่อยุติปัญหา และสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่ายให้สโมสรเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อย้อนดูประวัติความเป็นมาของโรมัน อับราโมวิช จะพบว่าเจ้าตัวเป็นนักธุรกิจที่มีใจชื่นชอบฟุตบอล และเป็นที่รักของแฟนเชลซีอย่างแท้จริง เพราะเมื่อเราดูบริบทของนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาลงทุนซื้อทีมฟุตบอลอังกฤษจะมองถึงเรื่องผลกำไร หรือประโยชน์ที่ได้กลับมาเป็นอันดับแรก

โรมัน อับราโมวิช หรือ “เสี่ยหมี” ที่ชื่อแฟนฟุตบอลมักเรียกขาน เข้าเทคโอเวอร์เชลซีในช่วงปี 2003 ด้วยเงิน 140 ล้านปอนด์ บวกกับส่วนของหนี้สิ้น 75 ล้านปอนด์ จากตอนนั้นมาถึงตอนนี้เรียกได้ว่า “เสี่ยหมี” เป็นผู้เสกความสำเร็จให้กับสโมสรเชลซีมากมาย ดูได้จากความสำเร็จจากการคว้าโทรฟี่ ได้แก่ แชมป์พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกไป 5 สมัย ,เอฟเอ คัพ 5 สมัย , ลีก คัพ 3 สมัย , ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่าซูปเปอร์คัพ 1 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย โดยใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 1,500 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าเชลซีภายใต้การบริหารของ “เสี่ยหมี” ได้มาหมดทุกแชมป์ที่มีการจัดแข่งขัน

ในแง่ของการทำธุรกิจ โรมัน อับราโมวิช ร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของหลักบริษัทลงทุนเอกชนชื่อว่า บริษัทมิลล์เฮาส์ แคปปิทัล ซึ่งดำเนินธุรกิจน้ำมัน และก๊าซ แน่นอนว่าเจ้าตัวหนีไม่พ้นกับการถูกจับตามองถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กลายเป็นคอนเน็กชันสนับสนุนในการเข้ารับสัมปทานในประเทศ ทั้งด้านพลังงาน, คมนาคม และอุปโภคบริโภค พร้อมทั้งตกเป็นเป้าโจมตีทุกครั้งเมื่อชาติตะวันตกมีความขัดแย้งกับรัสเซีย เช่น ถูกรัฐบาลอังกฤษระงับวีซ่าไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดความขัดแย้งขึ้นทำให้ โรมัน อับราโมวิช ตัดสินใจขายสโมสรเชลซี โดนตั้งตัวเลขไว้ที่ 3,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 130,780 ล้านบาท) และผลกำไรที่ได้จากการขายสโมสรจะนำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัสเซียส่งกองทัพบุกยูเครน

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงที่ออกมาผ่านทางสโมสร แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาการตัดสินใจที่ยากลำบาก และเจ็บปวดกับการขายสโมสรเชลซี แต่เชื่อว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับสโมสร