ปูติน ลั่นชาติไม่เป็นมิตรกับรัสเซียต้องใช้เงินรูเบิลซื้อก๊าซสถานเดียว


วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาแถลงเมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. ยืนกรานว่ารัสเซียจะขอให้ประเทศที่ไม่เป็นมิตรชำระเงินซื้อก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น ท่ามกลางสถานการณ์ราคาก๊าซในยุโรปพุ่งสูงขึ้นจากความกังวลที่เกิดจากการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัสเซียที่จะส่งผลกระทบต่อวิกฤตพลังงานในภูมิภาคให้รุนแรงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศในยุโรปยังคงต้องพึ่งพาอาศัยก๊าซจากรัสเซีย และการส่งออกอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้หลายชาติที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกออกมาคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วย โดยมุ่งเป้าไปที่ระบบเศรษฐกิจของรัสเซีย

แต่ดูเหมือนว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ออกมานั้นจะหยุดความตั้งใจของรัสเซียไม่ได้ เมื่อวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาพูดผ่านทางโทรทัศน์ในที่ประชุมรัฐมนตรีระดับสูงกับรัฐบาล ว่ารัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป แน่นอนเรายังคงจัดหาก๊าซธรรมชาติตามปริมาณ และราคาที่ระบุในสัญญา โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่ใช้ชำระเป็นรูเบิล

ก๊าซของรัสเซียคิดเป็น 40% ของการบริโภคทั้งหมดของยุโรป และการนำก๊าซของสหภาพยุโรปจากรัสเซียมีความผันผวนระหว่าง 200-800 ล้านยูโรต่อวันจนถึงวันนี้ ซึ่งการเปลี่ยนสกุลเงินอาจทำให้เกิดความระส่ำให้กับยุโรปบางส่วน และส่งผลให้ราคาขายก๊าซของอังกฤษปรับขึ้นประมาณ 15-20%

โดยสกุลเงินรูเบิลรัสเซียพุ่งขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ 95 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ก่อนที่จะปิดตัวที่ 100 หลังจากถูกประกาศมาตรการดังกล่าวออกไป

ปูติน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลและธนาคารกลางมีเวลา 1 สัปดาห์ที่จะย้ายการดำเนินการเหล่านี้เป็นสกุลเงินรัสเซีย และ Gazprom ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงสัญญาที่เกี่ยวข้องกับก๊าซ นอกจากนี้ ธนาคารรายใหญ่ไม่เต็มใจขายสินทรัพย์ของรัสเซีย ซึ่งทำให้ความต้องการของปูตินซับซ้อนขึ้นไปอีก

อีกทั้ง ผู้ซื้อก๊าซรายใหญ่ของรัสเซียไม่สามารถชี้แจงได้ทันทีว่าพวกเขาจะต้องจ่ายราคาก๊าซอย่างไร โดยโฆษก Germany’s Uniper กล่าวช่วงเวลานี้ เรายังไม่ต้องการแสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าปูตินจะใช้มาตรการชำระเงินด้วยรูเบิลกับการส่งออกอื่นด้วยเช่นกัน

ที่มา:cnbc