ชาวศรีลังกาออกมาประท้วงวิกฤตเศรษฐกิจด้านอาหาร-พลังงาน ด้านรัฐมนตรีลาออกทั้งคณะแล้ว


ศรีลังกากลายเป็นประเทศที่ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก หลังจากไม่มีทุนเพียงพอที่จะซื้อวัตถุดิบมาผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้กระทบต่อพลังงานที่สุดท้ายรัฐบาลต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยการตัดไฟฟ้าทั่วประเทศวันละ 10 ชั่วโมง

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวศรีลังกาเป็นอย่างมาก โดยมีการนัดหมายรวมตัวกันผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อรัฐบาลศรีลังกาในการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจล้มเหลวทำให้ประเทศต้องเข้าสู่สภาวะขาดแคลนอาหาร และพลังงานไปเป็นที่เรียบร้อย

ด้วยเหตุนี้ทำให้รัฐบาลศรีลังกาตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 36 ชั่วโมง เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ประชาชนออกมารวมตัวกันตามพื้นที่สาธารณะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา รวมถึงการบล็อกช่องทางโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตราแกรม และวอตซ์แอป หลังจากก่อนหน้านี้ประชาชนที่ออกมาประท้วงรัฐบาลศรีลังกาได้สร้างความเป็นสงบในกรุงโคลัมโบซึ่งเป็นเมืองหลวง มีการจุดไฟเผารถบัส ซึ่งการประกาศเคอร์ฟิวจะให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ในการควบคุมสถานการณ์

ล่าสุด มีรายงานว่ารัฐมนตรีศรีลังกาลาออกทั้งคณะแล้ว ภายหลังการประท้วงรัฐบาลของประชาชนเกี่ยวกับการจัดการวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 26 คน ได้ส่งหนังสือลาออกทั้งคณะเป็นที่เรียบร้อย ส่วน Gotabaya Rajapaksa ประธานาธิบดี และ Mahinda Rajapaksa น้องชายของเขายังคงอยู่ต่อ

ศรีลังกากำลังต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่นับตั้งแต่ได้อิสรภาพจากอังกฤษในปี 1948 ซึ่งส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการขาดเงินตราระหว่างประเทศที่จะนำไปใช้จ่ายนำเข้าเชื้อเพลิง จนส่งผลกระทบให้ต้องไฟฟ้าทั่วประเทศ, การขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค และเชื้อเพลิง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

Dinesh Gunawardena รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาศรีลังกา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนายกรัฐมนตรี โดยการตัดสินใจในครั้งนี้เพื่อที่จะให้ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี ได้สร้างเสถียรภาพเพื่อประชาชน และรัฐบาล

ที่มา: aljazeerabbcindia