เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ประโยคนี้สามารถใช้ได้กับทุกบริบท ที่บ่งบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนมีความเชื่อมโยงระหว่างกัน การกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมส่งผลต่อสิ่งหนึ่ง ซึ่งมีทั้งด้านดี ไม่ดี ควบคู่กันไป
เช่นเดียวกับกระแส “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย หลังจาก “มิลลิ” ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินแร็ปเปอร์ชาวไทยได้ขึ้นแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต Coachella 2022 ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีระดับโลก ณ เมืองอินดิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ
หนึ่งในโชว์ที่นำมาสู่กระแสต่อสังคมไทย คงหนีไม่พ้น การกินข้าวเหนียวมะม่วง บนเวทีการแสดง และนี่คือจุดเริ่มต้นของกระแสฟีเวอร์ “ข้าวเหนียวมะม่วง” นำมาสู่เรื่องต่าง ๆ ที่ตามมาไม่ต่างอะไรกับการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
จากกระแส “มิลลิ” กินข้าวเหนียวมะม่วง เราได้เห็นอะไรบ้าง มาดูกัน
เราได้เห็นคำว่า “Soft Power” ในสังคมไทยอีกครั้ง โดยคำนี้ถือเป็นเทรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยช่วงระยะหลังมานี้ ซึ่ง “Soft Power” ก็คือการสร้างมีส่วนร่วม ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องวัฒนธรรม อาหารแบบไม่ต้องถูกบังคับ หรือมองอีกมุมหนึ่งเต็มใจที่จะยอมรับสิ่งนั้น หากมองในต่างประเทศ เอาประเทศที่มีคนไทยมีความใกล้ชิดอย่าง “เกาหลี” เราจะเห็น “Soft Power” ของพวกเขาที่สร้างกระแสไปทั่วโลก ทั้ง เพลง, ซีรีส์ ที่มีการสอดแทรกวัฒนธรรม อาหารเข้าไปในเนื้อเรื่อง
กลับมาที่ไทย “Soft Power” มีอยู่รอบตัวมากมาย เพียงแต่ยังไม่ถูกส่งเสริมให้มากพอ โดยในกรณีของ “ข้าวเหนียวมะม่วง” นี้ มีการเสนอว่า นอกจาก “ข้าวเหนียวมะม่วง” แล้วยังมี “ข้าวเหนียวทุเรียน” ตลอดจนข้าวเหนียวหน้าอื่น ๆ ที่มีความอร่อยไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าไหน ๆ จะให้เป็นที่รู้จักแล้วก็เอาให้รู้จักกันหมดไปเลย
เราได้เห็นยอดออเดอร์ “ข้าวเหนียวมะม่วง” พุ่งสูง หลังจาก “มิลลิ” ทำการแสดงในช่วงเช้าตามเวลาในประเทศ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 65 ปรากฏว่าหลังจากนั้น “ข้าวเหนียวมะม่วง” กลายเป็นเมนูฟีเวอร์ไปในพริบตา อ้างอิงจาก LINE MAN แอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ พบว่ายอดการสั่งออเดอร์ “ข้าวเหนียวมะม่วง” โตกว่า 3.5 เท่า ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ
สำหรับพื้นที่ที่มีการสั่งมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเชียงใหม่, อำเภอนนทบุรี และเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยช่วงเวลาที่มีการสั่งมากที่สุด คือเวลา 15.00-19.00 น. อีกทั้ง 5 อันดับร้านที่มีการสั่งซื้อสูงสุด ได้แก่ ร้านข้าวเหนียวมะม่วงแม่วารี, ร้านข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน (โคตรหร่อยเมืองนนท์), ร้านข้าวเหนียวมะม่วงกองหนุน จังหวัดแพร่, ร้านข้าวเหนียวมะม่วงป้าแจ๋วแหว๋ว กรุงเทพฯ, ร้านแม่เอ๋ ข้าวเหนียวมะม่วง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามลำดับ
เราได้เห็นร้านขาย “ข้าวเหนียวมะม่วง” ขายดี เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดจากข้อข้างบน เมื่อมีผู้บริโภคสั่งออเดอร์เยอะ ผลที่ตามมาจึงตกอยู่กับผู้ประกอบการที่ขายข้าวเหนียวมะม่วงนั่นเอง เช่น ร้านแม่วารี ที่มีออเดอร์สั่งเข้ามาจนขายแทบไม่ทัน และต้องปิดรับออเดอร์ชั่วคราว หรือที่เชียงใหม่ แทบทุกร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เหล่านี้ยังไม่รวมพื้นที่อื่น ๆ ที่ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ขายดิบขายดี ทำให้พ่อค้า แม่ค้า มีรอยยิ้ม
เราเห็นนายกรัฐมนตรีพร้อมผลักดัน “Soft Power” และ “ข้าวเหนียวมะม่วง” สู่มรดกทางวัฒนธรรม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าพร้อมให้การสนับสนุน “Soft Power” ที่มีอยู่มากมายในประเทศไทยเพื่อให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก พร้อมชื่นชมศิลปินไทยที่ช่วยผลักดันจนเกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ
สอดคล้องกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เตรียมเสนอ “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ต่อยูเนสโก ซึ่งตอนนี้กำลังทำข้อมูลเตรียมพร้อมเพื่อนำเสนอในวันข้างหน้า
เราเห็น ก.พาณิชย์ หนุน “Soft Power” และผลักดันส่งออกข้าวเหนียว-มะม่วง เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าอีกหนึ่งหน่วยงานรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นกระทรวงพาณิชย์ที่พร้อมสนับสนุน Creative Economy โดยเน้นไปที่ “Soft Power” ตั้งเป้าให้เป็นที่รู้จัก ผงาดในตลาดโลก ซึ่งอาหารก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะสนับสนุน สร้างจุดขายจากกระบวนการผลิตที่มีความละเอียดลออ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ แอนิเมชัน และดิจิทัลคอนเทนต์
จะเห็นได้ว่าการกินข้าวเหนียวมะม่วงของ “มิลลิ” บนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลก นำมาสู่เรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งในเรื่องการตระหนักรู้ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม โดยไม่ต้องลงทุนประชาสัมพันธ์มากมาย นี่แหละที่เรียกว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ของจริง
ประเทศไทยยังมีอะไรน่าสนใจอีกมากมายอยู่ที่ว่าจะได้รับการสนับสนุนมากพอมากพอหรือไม่เท่านั้นเอง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง