รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
Visa’s Global Travel Intentions เปิดผลสำรวจเรื่องแผนการท่องเที่ยวฉบับล่าสุด พบว่าประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับ 4 ประเทศที่ดึงดูด เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทาง เป็นรองแค่สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และอินเดีย ส่วนเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีการค้นหาผ่านออนไลน์ ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และหัวหิน
Serene Gay ผู้จัดการ Visa ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางมา เมื่อพรมแดน และการเดินทางระหว่างประเทศค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางต้องพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และมีมาตรการใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังโควิด-19 รวมถึงความสามารถในการสร้างความปลอดภัย, การชำระเงินแบบดิจิทัลที่ลดการสัมผัส เหล่านี้จะเป็นกุญแจในการสร้างแรงผลักดันให้กับธุรกิจ และทำให้ธุรกิจเติบโตในอนาคต
ตามการศึกษา พบว่า 3 แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ตั้งใจเดินทางมายังประเทศไทย ร้อยละ 30 บอกว่าต้องการพักผ่อน, ร้อยละ 25 บอกว่าเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย และผ่อนคลาย และร้อยละ 18 อยากผจญภัยกลางแจ้ง
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังระบุอีกว่า เมื่อนักท่องเที่ยวอยู่ในไทย พวกเขามีแนวโน้มที่จะมุ่งหน้าทำกิจกรรมมากที่สุด และไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมทำ คือ นวดไทย, รับประทานอาหารไทยที่คาเฟ่ และร้านอาหาร, การใช้เวลาอยู่ที่รีสอร์ท และเรียนรู้วัฒนธรรมไทย เช่น เยี่ยมชมวัดวาอาราม
ตามการศึกษาของสมาคมการท่องเที่ยวแห่งเอเชียแปซิฟิก (PATA) เผยว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกำลังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดหวังจะเพิ่มขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ประมาณ 46.96 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งการผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าประเทศจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยง่ายขึ้น
“เราหวังว่าข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว และทุกธุรกิจในประเทศไทยเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่การกลับมาเดินทาง” Serene กล่าว
ที่มา: traveldailymedia