สัญญาณขาดแคลนอาหาร! สิงคโปร์เผชิญวิกฤตข้าวมันไก่ หลังมาเลเซียระงับการส่งออกไก่


สถานการณ์เงินเฟ้อทำให้หลายประเทศเลือกที่จะระงับการส่งออกสินค้าของตัวเอง เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ กลับกันย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศนำเข้าสินค้าที่อาจนำมาสู่ภาวะขาดแคลนได้

เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่กำลังเผชิญกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าข้าวมันไก่อาจจะขาดตลาด เนื่องจากมาเลเซียซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่เลือกที่จะระงับการส่งออกไก่ทั้งหมด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.

สถานการณ์ตอนนี้ร้านอาหาร และแผงลอยริมถนนในเมืองต้องพบกับราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น หรือบางร้านปิดตัวลงไปเลยก็มี เนื่องจากมาเลเซียส่งออกวัตถุดิบน้อยลง และต้องหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตอาหารขาดแคลนทั่วโลก

การสั่งห้ามส่งออกของมาเลเซียเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าโลกกำลังขาดแคลนอาหาร จากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน, สภาพอากาศแปรปรวน และการหยุดชะงักของอุปทานที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ตลอดจนการแย่งชิงอาหารภายในประเทศ, อัตราเงินเฟ้อเรื่องอาหารที่เพิ่มสูง นำมาสู่การประท้วงในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เจนตินา, อินโดนีเซีย, กรีซ และอิหร่าน

Daniel Tan เจ้าของร้านข้าวมันไก่ OK Chicken Rice กล่าวว่าการแบนส่งออกของมาเลเซียเป็น “หายนะ” สำหรับพ่อค้าแม่ค้า นั่นหมายความว่าเราจะไม่มีวัตถุดิบมาขายได้อีกต่อไป เหมือนกับ McDonald’s ที่ไม่มีเบอร์เกอร์ โดยปกติเราจะใช้ไก่เป็นจากมาเลเซีย แต่ต่อไปอาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้ไก่แช่แข็งภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะกระทบยอดขายอย่างหนักหน่วง เพราะลูกค้าไม่อาจตอบสนองต่อคุณภาพที่เปลี่ยนไปของอาหาร

แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศที่มีความร่ำรวย แต่มีพื้นที่ในเมืองเพียง 730 ตารางกิโลเมตร โดยส่วนใหญ่ต้องอาศัยการนำเข้าอาหาร, พลังงาน และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งไก่เกือบทั้งหมดนำเข้าจากมาเลเซีย คิดเป็น 34%, จากบราซิล คิดเป็น 49% และจากสหรัฐฯ คิดเป็น 12%

โดยข้าวมันไก่เป็นอาหารจานโปรดของชาวสิงคโปร์จำนวน 5.5 ล้านคน และมักจำหน่ายในราคา 4 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 100 บาท) ที่ศูนย์อาหาร
ด้านมาเลเซียต้องเผชิญกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ตัดสินใจหยุดการส่งออกไก่ จนกว่าการผลิตในท้องถิ่น และต้นทุนจะกลับมามีประสิทธิภาพ

ที่มา: nstchannelnewsasia