“Siam Secret” เฟ้นหาพันธมิตร SMEs ไทย ในงานจับคู่ธุรกิจ “Smart SME EXPO 2022” หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบไทยสู่ “ตลาดตะวันออกกลาง” ชี้เป็นตลาดที่เติบโต อนาคตสดใส มีกำลังซื้อสูง
คุณวรภัทร์ คุณวิเศษพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคสวาไทย อินเตอร์ คอมเมอร์เชียล จำกัด หรือ ชื่อที่รู้จักกันดีในประเทศตะวันออกกลาง คือ “Siam Secret” เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่มีโอกาสร่วมเจรจา หรือ Business Matching เพื่อหาพันธมิตรที่เป็น SMEs ในงาน “Smart SME EXPO 2022” ซึ่งได้ผลตอบรับดีมากทุกปี เพราะมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนไม่น้อยที่สนใจอยากนำสินค้าไปเปิดตลาดในประเทศตะวันออกกลาง ซึ่ง “Siam Secret” มีธุรกิจค่อนข้างหลากหลายในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะด้านความงาม สุขภาพ อาหาร ซึ่งตอนนี้กำลังขยายตลาดไปที่ดูไบและอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง
คุณวรภัทร์ กล่าวถึงความตั้งใจในการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ว่า ต้องการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการไทยถึงสิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะส่งออกมีอะไรบ้าง ตรงนี้เราก็จะให้คำแนะนำเพื่อเตรียมตัวในการส่งออก ส่วนกลุ่มที่มีสินค้าที่ดีมีมาตรฐานครบถ้วนอยู่แล้ว แต่อยากจะหาช่องทางเพิ่มในการขายสินค้าไปต่างประเทศ เราก็จะให้คำแนะนำที่ถูกต้องเพื่อให้มีความราบรื่นในการดำเนินงาน เป็นข้อมูลจากประสบการณ์จริงที่เราทำธุรกิจอยู่ที่นั้นมานาน และชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่สินค้าไทยจะไปเติบโตได้ในตลาดตะวันออกกลางได้อย่างไร ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงมาก
“สินค้าไทยที่นิยมในตะวันออกกลางถือว่ามีความหลากหลายมาก สูงสุดคือระดับพรีเมียมใช้ดีซื้อซ้ำ ซื้อเป็นของฝากได้ โดยเฉพาะสินค้าด้านสุขภาพ ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงมาก หรือจะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทยและขนมที่เป็น Healthy เป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในตะวันออกกลาง”
คุณวรภัทร์ ยังกล่าวถึงฟิตแบล็คจากการได้ร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งที่แล้วว่า ผลตอบรับดีมาก มีสินค้าของผู้ประกอบการที่เราจับคู่ในงาน Smart SME EXPO ปีที่แล้ว ได้ไปเปิดตลาดที่ตะวันออกกลางบ้างแล้ว และมีอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาปรับปรุงสินค้าเพื่อนำไปวางขาย ขณะที่สินค้าบางตัวก็มีออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มองเห็นโอกาสอะไร? ในตะวันออกกลาง
คุณวรภัทร์ บอกว่า การทำธุรกิจต้องเจอเนื้อคู่ ไทยเป็นประเทศที่เน้นการผลิตและส่งออก ขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางเน้นการนำเข้า ดังนั้นเราจึงผลิตให้กับประเทศที่ต้องการนำเข้า จึงเป็นเหมือนเจอเนื้อคู่ ที่สำคัญคือการมีวัฒนธรรมที่คล้ายกัน เช่นการมีครอบครัวเป็นศูนย์กลางแบบไทย ที่สำคัญประเทศกลุ่มนี้มีการบริหารจัดการที่ดีมีกำลังซื้อสูงมาก
คุณวรภัทร์ เปิดมุมมองธุรกิจในประเทศตะวันออกกลางว่า ตนเพิ่งกลับมาจากตะวันออกกลางครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้กลับมาไทยเป็นเวลา 2 ปี ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ต้องบอกว่าสินค้าไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องการผลิตในเชิงนวัตกรรม แต่ที่เราต้องส่งเสริมทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนรวมถึงตัวผู้ประกอบการเอง คือ ด้านการตลาด เพราะวัฒนธรรมที่หลากหลายของคนในตะวันออกกลางไม่ได้มีแค่ชาวอาหรับ แต่ยังมีชนชาติอื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมากด้วย
“โดยช่องทางที่เรามีอยู่ 4 ช่องทางใน 2 ประเทศ ซึ่งในไทยเรามีอยู่ 3 ช่องทาง คือ หนึ่ง “Siam Secret” อันนี้จะเป็นสินค้าด้านความงามและสุขภาพ (Beauty & wellness) สอง คือ “มาดามตุ๊กตุ๊ก” เป็นสินค้าเกี่ยวกับขนมขบเคี้ยวต่างๆ และช่องทางที่สาม ชื่อ “โยเดีย” เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและสปา (Beauty & Spa)
ส่วนที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เราเป็น Partner Ship โดยมีการคัดเลือกสินค้าเข้าไปขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆของ ดูไบ รวมถึง ในคอนวีเนี่ยน สโตร์ด้วย โดยใช้ชื่อว่า “โฟร์มาร์ท” คุณวรภัทร์ กล่าวเสริม
โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สนใจเป็นประเภทขนมขบเคี้ยว จะได้รับความนิยมมาก ส่วนของเครื่องสำอาง กลุ่มสกินแคร์ของไทย ก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวอาหรับ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง กาแฟสุขภาพ คอลลาเจน ไฟเบอร์ ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ในส่วนของกลุ่มสมุนไพรไทยก็ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
แนวโน้มตลาดตะวันออกกลางในอนาคต
คุณวรภัทร์ สะท้อนมุมมองเรื่องนี้ว่า ขณะนี้หลายประเทศกำลังประสบปัญหา “เงินเฟ้อ” แต่ในตะวันออกกลางถือว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ผลิตน้ำมัน จึงมีอำนาจต่อรองสูง ซึ่งที่ผ่านมาก็คืองาน World EXPO ของดูไบที่เพิ่งจบไปถือเป็นงานที่ใหญ่มากของประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงการที่ซาอุดิอาระเบียฟื้นความสัมพันธ์กันใหม่กับไทย จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำตลาดในประเทศนี้ ดังนั้นผู้ค้าที่จะมาร่วมธุรกิจกับเรามั่นใจได้ระดับหนึ่งในเรื่องการทำธุรกิจในประเทศแถบนี้
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ถือว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ บาห์เรนและดูไบ ได้ผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มแรกๆที่เปิดให้เข้าประเทศได้ และเป็นกลุ่มประเทศแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนด้วย ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบน้อยมาก จะเห็นได้ว่าหลายๆ ธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่ด้วยวิธีคิดของเรา คือ คิดใหญ่แต่เริ่มต้นจากเล็กๆ จึงเติบโตได้อย่างมั่นคง
สำหรับช่องทางการส่งเสริมการขายเรามีให้ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ออฟไลน์ที่เป็น store ก็มีการร่วมมือกับร้านค้าต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ดังนั้นเราจึงมีช่องทางที่หลากหลายในการกระจายสินค้าให้เหมาะสมและยังมีระบบ “โฮมเดลิเวอรี่” ส่งตรงถึงหน้าบ้านอีกด้วย ถือว่ามีช่องทางค่อนข้างครบครัน ดังนั้นต้องมาดูว่าสินค้าของผู้ประกอบการที่ร่วมธุรกิจกับเรานั้นเหมาะสมกับช่องทางไหน เพื่อจะขายได้ถูกกับช่องทาง โดยจะมีการวางแผน การส่งออกเพื่อให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนจากเล็กไปถึงกลางแล้วก็ไปใหญ่
“ฝากถึงผู้ประกอบการ SMEs ในหนึ่งเหตุการณ์จะมีทั้งวิฤตและโอกาส เราจะชนะวิกฤตได้ ก็ด้วยวิสัยทัศน์ เพราะวิกฤตมองให้เป็นปัญหาก็ได้ แต่ก็มองให้เป็นความท้าทายหรือโอกาสได้เช่นกัน จะเห็นได้จากวิฤตต่างๆ มีคนที่แย่ลงและคนที่เติบโตขึ้น ดังนั้นการจะอยู่รอดได้ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์และมองหาโอกาสและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเสมอ แม้ไม่เกิดวิฤตก็ตาม” คุณวรภัทร์ ขยายมุมมอง
สุดท้าย คุณวรภัทร์ ยังกล่าวถึงการร่วมงานครั้งนี้ด้วยว่า งาน Smart SME EXPO 2022 จะเป็น Gateway เชื่อมต่อระหว่างสินค้ากับโอกาสและช่องทาง ถ้าไม่มีงาน Smart SME EXPO แบบนี้ โอกาสที่เราจะเจอผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ค่อนข้างจะยาก หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่มองหาโอกาสและข้อมูลที่ถูกต้องก็จะไม่มีโอกาสอย่างนี้ อย่างเราเป็นเจ้าเดียวที่มาจากตะวันออกกลาง ที่มาในงานนี้ ดังนั้นข้อมูลองค์ความรู้ที่ผู้ประกอบการได้จากเราคือประสบการณ์ทางธุรกิจที่ตะวันออกกลางจริงๆ ทำให้ผู้ประกอบการบางท่านยังไม่เคยส่งออกเลยสามารถที่จะเข้าใจและไปต่อได้อย่างถูกต้อง