“G -Tech” จับมือ “เลเวลอัพ โฮลดิ้ง” ร่วมงาน Smart SME Expo 2022 เปิดโอกาส “จับคู่ธุรกิจ” ช่วย SMEs คนตัวเล็กเจาะตลาดขยายธุรกิจผ่านตลาดอีคอมเมิร์ซจีน ก้าวไปสู่จุดศูนย์กลางของ China Marketing ด้วยความสำเร็จอย่างมั่นคง
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 10 ล้านคนหรือ 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย จึงเป็นตลาดสำคัญสำหรับ SMEs ไทยที่อยากจะขยายธุรกิจ แต่ประเทศที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวไม่ใช่เพียงแค่ภาษา แต่วัฒนธรรมความชอบ และสื่อออนไลน์รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ ล้วนแล้วมีความแตกต่าง กับประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหา รวมถึงการวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจไปสู่ประเทศจีน
คุณคณิสนันท์ สุทิฏฐานุคติ ตำแหน่ง Business Development บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้งจำกัด ( Level Up Holding Co., Ltd.) กล่าวว่า เราเป็นบริษัทเอเจนซี่ที่ให้บริการด้านการตลาดจีนครบวงจรอันดับ 1 ในประเทศไทย ส่งเสริมสินค้า และบริการของคนไทย พร้อมเป็นที่ปรึกษาวางแผนการตลาดสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการบุกตลาดประเทศจีน โดยเน้นการใช้สื่อออนไลน์ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิทัล
ซึ่งมีบริการการตลาดออนไลน์จีนที่หลากหลายครอบคลุม อย่างครบวงจร อาทิ การเปิดบัญชีและบริหารโซเชียลมีเดียจีน Weibo, Wechat Official Account, การโฆษณาออนไลน์ในแอพพลิเคชั่นจีน Meituan Dianping, Ctrip, Xiaohongshu (RED), Tiktok รวมไปถึง การทำ SEO หรือ โปรโมทผ่าน SEM ของ Baidu ซึ่งเข้าถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว รวมถึงการโปรโมทสินค้าผ่าน Blogger ,Influencer และ KOL (Key opinion Leader) ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า เป็นต้น ทำให้ เลเวลอัพ โฮลดิ้ง ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการ SME, บริษัทชั้นนำของไทย และบริษัทต่างชาติ มากกว่า 100 แบรนด์
“เราเป็น Expert ด้านการตลาดจีน โดยหลักๆ เราทำหน้าที่ให้คำปรึกษาสินค้าไทยที่ต้องการจะไปเปิดตลาดในประเทศจีน เราจะทำการตลาดให้รวมถึงการทำช่องทางรูปแบบอีคอมเมิร์ซด้วย โดยมี Partner กับภาครัฐและเอกชนทั้งในไทยและจีน”
คุณคณิสนันท์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่เข้าร่วมงาน Smart SME EXPO 2022 ในครั้งนี้ว่า เนื่องจาก ‘Level Up’ เราเป็น Partner กับ G-Tech ซึ่งเขามองเห็นว่าธุรกิจที่เราทำมีการนำสินค้าไทยเข้าไปขายในจีนทั้งในรูปแบบออนไลน์และอ๊อฟไลน์ ทาง G-Tech จึงต้องการช่วยสนับสนุนสินค้าไทยที่เป็นสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีมาตรฐานให้สามารถเข้าไปขายในตลาดจีนได้ โดยให้ทาง ‘Level Up’ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาช่วยคัดเลือกและแนะนำสินค้าเปิดโอกาสสร้างช่องทางในการตลาดเพื่อแนะแนวทางว่าจะพัฒนาสินค้าไทยให้ตอบโจทย์ชาวจีนได้อย่างไร โดยที่ ‘Level Up’ จะร่วมมือกับ ‘G-Tech’ เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าไทยให้มาเปิดตลาดในจีนได้
สำหรับสินค้าไทยที่นิยมในประเทศจีน จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สปา ส่วนอาหารจะเป็นทุเรียน ผลไม้อบแห้ง หรือถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนก็จะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูปต่างๆ เช่นเครื่องแกงสำเร็จรูป หรือผงยำสำเร็จรูป อย่างนี้เป็นต้น
คุณคณิสนันท์ ยังกล่าวถึงการร่วม “จับคู่เจรจาธุรกิจ” ในครั้งนี้ด้วยว่า การได้ร่วมแมตช์ชิ่ง หรือจับคู่เจรจาธุรกิจในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการให้ความสนใจสอบถามเพื่อนำสินค้าไปเปิดตลาดในประเทศจีนหลายราย ซึ่งมีทั้งผู้ที่มีสินค้าและมีความพร้อมอยู่แล้ว และผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาสินค้ารวมไปถึงผู้ที่กำลังจะเริ่มธุรกิจแต่อยากศึกษาการนำสินค้าไปเปิดตลาดในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก เข้ามานำเสนอสินค้าที่แปลกใหม่น่าสนใจมากมาย ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่จะมองหาสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นผู้มีกำลังซื้อสูงมาก โดยเทรนสินค้าที่กำลังมาแรงคือ ‘สินค้าแม่และเด็ก’
“แนวโน้มในปัจจุบันสินค้าไทยที่จะสามารถมีโอกาสเข้าไปเติบโตในประเทศจีนนั้นมีเปอร์เซ็นต์ที่เติบโตมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 2 ปีที่ผ่านมาทำให้คนจีนไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ พอมีการจัดงาน Expo ที่เกี่ยวกับสินค้าไทยก็จะได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีมากจากชาวจีน
โดยเฉพาะจีนทางตอนใต้จะค่อนข้างชื่นชอบสินค้าไทยมากเป็นพิเศษ โดยมองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและจากการที่เคยมาท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ต่างบอกว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ อย่างเช่น ทุเรียน จะมีรสชาติที่ไม่เหมือนที่อื่น หรือผลิตภัณฑ์สปา ที่จีนก็มีขายมากมาย แต่ของเมืองไทยนั้นจะมีกลิ่นเฉพาะที่พิเศษกว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ สิ่งนี้เป็นจุดเด่นที่จีนไม่มี” คุณคณิสนันท์ ขยายความ
คุณคณิสนันท์ เผยถึงประโยชน์ของการที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Business Matching ในครั้งนี้ว่า ได้มีโอกาสพบลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการบอกว่าดีใจที่เรานำความรู้มาให้ ขณะที่ในมุมของเราก็รู้สึกดีที่ได้มาเปิดมุมมองสินค้าที่มีความแปลกใหม่ในตลาด อาทิ ซีอิ๊วขาวที่ทำมาจากมะพร้าวแทนถั่วเหลือง ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคที่แพ้โปรตีนถั่วเหลืองสามารถทานได้ หรือจะเป็นน้ำส้มสายชูที่หมักโดยสับปะรดคนที่แพ้ก็จะทานได้ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทำให้เราได้รับความรู้ตรงนี้เป็นมุมมองใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ถึงแม้บางรายจะไม่ได้ Success ในการเจรจาจบในงานนี้ แต่ก็มีคอนเน็คชั่นระหว่างกันต่อไป มีโอกาสที่เราจะหา Partner เข้ามาร่วมธุรกิจที่จะนำสินค้าไปเปิดตลาดในประเทศจีนได้อีกมากมาย
“ได้มีโอกาสมาร่วมงาน Smart SME EXPO เป็นครั้งแรก แต่รู้สึกว่ามีรูปแบบจัดงานที่ดี แบ่งเป็นสัดส่วนดีและมีกิจกรรมหลากหลายให้ร่วมเวิร์คช้อป มีเวทีการพูดคุยเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการทำธุรกิจ SMEs มีแฟรนไชส์ ราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้านให้เลือกสรรมากมาย รวมถึงมีการพูดคุยเจรจาธุรกิจผ่านทางออนไลน์ แม้แต่คนที่ไม่ได้จองแมตช์ชิ่งไว้ล่วงหน้าก็สามารถลงทะเบียนที่หน้างานได้ ซึ่งงานนี้ผู้ที่สนใจสามารถนำสินค้าส่งออกไปต่างประเทศจะมีโอกาสได้นำสินค้าตัวเองขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ตะวันออกกลาง, จีน, พม่าและกัมพูชา ได้” คุณคณิสนันท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คุณคณิสนันท์ ได้ฝากถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการนำสินค้าไปเปิดตลาดในจีน ว่า ไม่อยากให้ไปมองหาสินค้าแบบจีนแล้วนำมาทำขาย แต่อยากให้พัฒนาสินค้าที่ตนเองมีแล้วต่อยอด ธุรกิจ โดยศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดชาวจีนว่า สินค้าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์ที่เขาต้องการ โดยยึดสิ่งที่เรามีอยู่แล้วเป็นหลักและพัฒนาให้ตอบโจทย์ตลาดจะทำให้ผู้ประกอบการ SMEs เติบโตได้ เพราะถ้าเรามีวัตถุดิบของตนเองและมีความเชี่ยวชาญในสินค้าที่เราผลิตจะสามารถต่อยอดได้ง่ายและยั่งยืนกว่า