รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
“ชานมไข่มุก” ถือเป็นอีกเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ และอยู่อันดับต้น ๆ ของใครหลายคน ด้วยรสชาติความหวานที่กลมกล่อม จึงห้ามใจไม่ค่อยอยู่ที่จะควักเงินซื้อในแต่ละวัน สู่เดือน ตลอดเป็นปี หากคำนวณแล้วคิดเป็นเงินไม่ใช่น้อย
เพื่อตอกย้ำข้อความข้างต้น Momentum Works บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ร่วมมือกับ qlub บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลในสิงคโปร์ เผยผลการสำรวจค่าใช้จ่ายในการซื้อชานมไข่มุกของผู้คนในภูมิภาคอาเซียน พบว่าผู้ที่ชื่นชอบชานมไข่มุกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีค่าใช้จ่ายคิดเป็น 3.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 130,000 ล้านบาท) ต่อปี เพื่อซื้อเครื่องดื่มชนิดนี้ โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีราคาชานมไข่มุก แม้ว่าจะมีประชากรน้อยที่สุดก็ตาม
สำหรับการศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจชานมไข่มุก โดย Momentum Works กล่าวว่าสิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับแบรนด์พรีเมียม แม้ปัจจุบันจะมีแบรนด์ชานมไข่มุกมากกว่า 60 แบรนด์
ด้านประเทศที่มีการใช้จ่ายซื้อชานมไข่มุกมากที่สุด คืออินโดนีเซีย ที่มีการใช้จ่ายอยู่ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วยไทยที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 749 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, เวียดนาม มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 362 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสิงคโปร์ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 342 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อเครื่องดื่มชานมไข่มุกของแบรนด์ต่าง ๆ นั้น นอกจากราคาที่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีต่อการตัดสินใจซื้อ แต่ยังมีในเรื่องเมนูที่มีความหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย เช่น การเลือกระดับความหวานของเครื่องดื่ม, สาขาที่เข้าถึงได้ง่าย
ที่มา: channelnewsasia