วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องนิสัยที่ไม่เหมาะสมของการเป็นเจ้าของธุรกิจจริง ๆ แล้วนิสัยเป็นสิ่งที่จะสร้างพฤติกรรมประจำวันหรือพฤติกรรมประกอบธุรกิจของเรา ส่วนใหญ่จะมีผลลัพธ์ออกมา ถ้านิสัยไม่ดีพฤติกรรมที่ออกมาก็จะมีผลลัพธ์ที่แย่และไม่ดี และอาจจะไม่สามารถแข่งขันได้ บางคนอาจนำไปสู่การติดคุกหรือติดตะรางได้ ถ้าหากทำผิดกฎหมาย หรือมีการโลภมากเกินเหตุ จนไม่ประกอบสัมมาอาชีพที่สุจริต ก็จะนำไปสู่ที่เรียกว่า ผลลัพธ์ที่ล้มเหลว บางคนที่เสียหายน้อยที่สุดถึงขั้นล้มลงไปแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่และเดินไปใหม่ แต่โอกาส เวลา ที่จะประสบผลสำเร็จเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้บทเรียน
ดังนั้นนิสัยที่ดี หรือนิสัยแบบไหนที่ไม่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ผมคิดว่าเรื่องนี้มี 5 ประการใหญ่ ๆ ที่จะเป็นส่วนแนะนำให้ผู้ประกอบการทั้งหลายหลีกเลี่ยงหรือไม่ควรประพฤติปฏิบัติ
ประการที่แรก นิสัยที่จะทำให้สุขภาพทั้งกายและใจของเราไม่ดี ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ยากเย็น เพราะว่าเราสามารถเรียนรู้ได้ สุขภาพกายจะประกอบด้วย 5 อ. สุขภาพที่ดีตัวเราเองต้องเป็นคนสร้าง ไม่มีขายซื้อขาย การที่เราไปหาหมอเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
สุขภาพที่ดีมาจากนิสัยที่รักษาสุขอนามัย สุขภาพจิตก็เป็นเรื่องใหญ่ที่หลายคนพยายามไปใช้ที่เราเรียกว่าสร้างเสริมบารมีด้วยการมี สมาธิ มีสติ จะก่อเกิดปัญญาที่ดี เพราะฉะนั้นนิสัยที่พยายามจะสร้างสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดี จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ
ประการที่สอง การมีวินัย เพราะว่านิสัยใจคอที่มีอยู่นั้น เรื่องการทำธุรกิจมันต้องมีกฎเกณฑ์ และ ต้องมีการเรียนรู้ และเวลาที่เรามีนั้นค่อนข้างจำกัด จึงเป็นเรื่องที่ ต้องมีวินัยโดยเฉพาะเรื่องการเงิน เรื่องของบัญชี และเรื่องที่เราให้ความสำคัญไม่ควรละเลย ถึงแม้เราจะไม่ชำนาญเราอาจจะหาคนมาทำแทน ได้แต่ต้องมีวินัยกับมัน การมีวินัยมันจะช่วยสร้างหลายเรื่อง ที่จะทำให้เรา ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามมา เพราะว่า ทุกคนต้องมีกระบวนการมีขั้นตอน มีการปฏิบัติ เพราะฉะนั้น นิสัยที่ไม่มีวินัย ตื่นสาย ใช้ของที่ฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ก็จะนำไปสู่การเงินที่สุรุ่ยสุร่าย
ประการที่สาม ทัศนคติหรือการสร้างความสัมพันธ์ ที่ฉลาดและก็ดี ในแง่บวก เพราะส่วนใหญ่ นิสัยที่ไม่ดีนั้น จะมองทุก ๆปัญหาไม่มีทางออก หรือทำผิดพลาดก็เอาแต่โทษคนอื่น ความสัมพันธ์กับบุคคลที่ร่วมทำงาน จึงเป็นปัจจัยที่ผู้นำหรือ ผู้ที่ประกอบกิจการพึงจะมี ใครที่คบด้วยก็จะรู้สึกอบอุ่น เเละก็สบายใจที่จะมีการทำการค้าร่วมกัน แม้กระทั่งลูกน้องก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดี ทัศนคติจึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องสร้าง และมีนิสัยที่จะแก้ปัญหา เพราะว่าปัญหาในเวลาที่เราทำธุรกิจมันไม่สมหวังกรือพึงประสงค์ พฤติกรรมของคู่ค้าของเราก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการปรับเปลี่ยนที่ตัวเราจึงเป็นเรื่องที่ใหญ่ ดังนั้น ทัศนคติทางบวกจึงเป็นเรื่องที่จะสร้างเสริมพัฒนาทางความคิดทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
ประการที่สี่ การแบ่งปัน ถ้าเราทำอะไรแล้วมีการแบ่งปัน หรือเรียกว่าสัมมาอาชีพเพราะว่าแต่ละธุรกิจไม่สามารถทำคนเดียวได้ถ้าเรามีนิสัยไม่ชอบการแบ่งปันจะทำให้เราเกิดศัตรูเกิดคู่แข่ง และก็เกิดสิ่งที่เราเรียกว่ามีศัตรูคนเดียวยังมากไปเพราะฉะนั้นแล้วการทำการค้า ผู้ประกอบการนั้นต้องรู้จักแบ่งปันและก็มีสัมมาอาชีพไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น แม้กระทั่งสิ่งแวดล้อมก็ตาม รวมไปถึงกฎระเบียบของบ้านเมืองเราต้องการให้
ประการที่ห้า เทคโนโลยี นิสัยที่ดีนั้นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วย สิ่งประดิษฐ์เครื่องมือใหม่ ๆ และยอมทดลองกับมัน เรียนรู้กับมัน พร้อมกับการทำธุรกิจด้วย ถ้าใครสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ นิสัยอันนี้ก็จะทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จ คนที่เรียนรู้ตลอดเวลา จะมีบุคลิกการฟัง มากกว่าการพูด หรือการติดตามข่าวสารอย่างมีสติ แยกแยะเรื่องต่างๆอย่างมีเหตุมีผล
ทั้งห้าประการที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ผมคิดว่าถ้ามีนิสัย หรือรู้ว่าอันไหนไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้ประกอบการ ก็จะสามารถดำรงอยู่ได้ ผู้ประกอบการโดยทั่ว ๆ ไป จะตายประมาณ 50% โดยธรรมชาติใน 10 ปีข้างหน้า ยิ่งมีวิกฤติซ้อนวิกฤต ผมคิดว่าจะเหลือ ผู้ประกอบการ แค่ 20 ถึง 30% เท่านั้น ที่จะอยู่รอดได้ ดังนั้นต้องสร้างพฤติกรรมที่ดี นิสัยที่ดี ที่เหมาะสมกับการเป็นผู้ประกอบการจะสามารถอยู่รอด อยู่เป็น อยู่ยาวได้