วางแผนธุรกิจอย่างไรดี เพื่อดันธุรกิจ SMEs ให้ไปต่อได้ในปี 2023


ปี 2022 นี้เป็นปีเสือ หลาย ๆ คนก็เป็นเสือลำบาก ปีที่จะถึงนี้ก็เป็นปีเถาะ ซึ่งปีเถาะก็หมายถึงปีกระต่าย สิ่งที่จะให้คำแนะนำว่าจะวางแผนอย่างไรดี เพื่อดันธุรกิจ SMEs ให้ไปต่อได้ในปี 2023 เลยขอหยิบยกนิทานอีสปขึ้นมา ว่า ปกติกระต่ายมักจะพูดถึงกระต่ายตื่นตูม ซึ่งจะขอให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหลาย ต้องไม่ตื่นตูม

ต้องเรียนเลยว่าปี 2023 นั้นจะเป็นปีที่ยากลำบากของโลกและก็ของไทย เพราะไทยนั้นเชื่อมเศรษฐกิจอย่างแนบแน่นกับโลก ถ้าโลกใบนี้ไม่ปกติ หรือเศรษฐกิจผันผวนสูง ไม่แน่นอนแล้วก็ถดถอย ไทยก็ย่อมจะถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เลยยกนิทานอีสปขึ้นมาก่อน หลายท่านอาจจะไม่ได้เรียนเหมือนกับผมตอนเด็ก ๆ เรื่องสั้น ๆ ก็มีอยู่ว่ากระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว วันหนึ่งก็นอนอยู่ใต้ต้นมะพร้าวก็นอนหลับอย่างสนิท อยู่ ๆ ก็มีลูกมะพร้าวร่วงลงมาเกือบโดนตัวกระต่าย กระต่ายก็ตกใจตื่นคิดว่าเป็นฟ้าถล่ม ก็ไม่ทันที่จะไตร่ตรองหรือดูเหตุการณ์ดี ๆ ก็วิ่งสุดกำลังด้วยความตกใจ กลัวความตาย แล้วร้องตะโกนว่า ฟ้าถล่ม ฟ้าถล่ม สัตว์ต่าง ๆ ที่ได้ยินก็ตกใจ เลยวิ่งตาม เรื่องนี้เป็นนิทานตอนหลังราชสีห์ ซึ่งเป็นเจ้าป่าก็เรียกกระต่ายให้หยุด แล้วก็รีบถามไถ่ จนกระทั่งบอกให้กระต่ายกลับไปสถานที่เกิดเหตุ ก็พบว่ามีลูกมะพร้าวตกอยู่

ดังนั้น จึงใช้การเปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่าย ไม่ทันที่จะคิดพิจารณาให้ถ่องแท้ รอบคอบ ซึ่งอันจะเกิดให้เสียหายได้ เรื่องนี้ต้องถือว่าเมื่อประสบภัย ในเหตุการณ์ที่คาดคิดไม่ถึง ต้องมีสติ อย่าด่วนตัดสินใจ เพราะว่าอาจจะเกิดผลเสียได้ หรือในกรณีที่มีข่าวลือ ตื่นตกใจโวยวาย ไม่ทันพิจารณาติดตามข้อเท็จจริงให้รอบคอบเสียก่อน หรือในกรณีที่เราใช้ปัญญาอย่างรอบคอบและใช้สติ ก็สามารถค้นพบสาเหตุของปัญหาได้

ปีหน้าจะเป็นปีที่จะเกิดความไม่แน่นอนและผันผวนเยอะ ด้วยเหตุผลเรื่องของสงคราม เรื่องของเงินเฟ้อ เรื่องราคาเพิ่มขึ้นของพลังงาน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาก็มีผลทำให้ปริมาณเงินดอลลาร์ ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว และมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ

ซึ่งแน่นอนว่าก็อาจจะทำให้เกิดการตึงเครียดของเงินสำรองของบางประเทศ ก็อาจจะส่งผลเสียหาย แล้วก็ทราบมาว่าธนาคารใหญ่ ๆ ของโลกเริ่มจะมีปัญหาราคาหุ้นตกต่ำอย่างมาก คล้ายกับกรณีน้ำลดตอผุด ไม่ว่าจะเกิดที่ไหน ประเทศอะไรที่ไม่มีทุนสำรองก็จะถูกกระทบ

แน่นอนว่าการค้าโลก นักท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ตั้งใจจะมาก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือผันผวนสูง ประเทศไทยเราจากการประชุมร่วมภาคเอกชนและรัฐบาลก็ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแล้ว 3- 3.5 % ก็ด้วยเหตุผลการส่งออก และนักท่องเที่ยวหนึ่งเดือนเข้ามาประมาณ 1.14 ล้านคน ก็คิดว่าไตรมาส4 ที่จะถึงนี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงก็น่าจะมีสัญญาณที่เห็นชัดว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

ดังนั้น เหตุการณ์เหล่านี้ก็อาจจะมีการผันผวนเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากตัวบ่งชี้ที่จะถึง เพราะฉะนั้นการเตรียมการที่ดี ผมเลยอยากฝากเหล่าผู้ประกอบการว่า ปีหน้าเป็นปีกระต่าย เราต้องเป็นกระต่ายที่ไม่ตื่นตูม ไม่ตกใจง่าย หรือขาดสติปัญญา ก่อนที่จะดำเนินการต่าง ๆ
ดังนั้น สิ่งที่ส่งท้ายก็คือว่า ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จ่าย ก่อนที่จะกู้เงิน หรือก่อนที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องให้เกิดความคุ้มค่า เลยฝากพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไว้ว่า

“การกู้เงิน เงินนั้นต้องให้เกิดประโยชน์ มิใช่กู้สำหรับไปเล่น ไปทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ ถ้ากู้เงินแล้วทำให้มีรายได้ ก็เท่ากับใช้หนี้ได้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ”
พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตสำหรับประชาชน ปี 2540

ดร.มงคล ลีลาธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ SME D Bank และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารออมสิน อดีตประธานกรรมการบริหาร สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)