แน่นอนว่าการทำธุรกิจย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ บริบทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยในบทความของนิตยสาร Forbes ได้เผยถึงอนาคตของธุรกิจ และเทคโนโลยีจากข้อสรุปของ Bernard Marr เกี่ยวกับ 5 บิ๊กเทรนด์ธุรกิจในปี 2023 ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าจะมีผลกระทบแบบวันต่อวัน รวมถึงการทำงาน และการทำธุรกิจในปีที่มาถึงนี้
แม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับคนที่ให้ความสนใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามไปเลยไป โดย Bernard Marr ได้ทำการเจาะลึก และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการเตรียมตัว และการจัดการรับมือกับปี 2023 ที่กำลังมาถึง
1.การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลแบบเร่งด่วน
ในปี 2023 เราจะได้เห็นความต่อเนื่องของนวัตกรรม และพัฒนาการด้านเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), internet of things (loT), เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR/AR), คลาวด์คอมพิวติ้ง, บล็อกเชน และ 5G
2.อัตราเงินเฟ้อและความมั่นคงในห่วงโซ่อุปทาน
แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในปี 2023 ยังไม่ค่อยดูดีนัก โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ถดถอย อีกทั้งหลายอุตสาหกรรมยังคงประสบปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
3.ความยั่งยืน
โลกมีความตื่นตัวมากขึ้นจากภัยพิบัติที่มาจากสภาพอากาศจนกลายเป็นความท้าทายที่ใหญ่กว่าสิ่งอื่นใดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา นั่นหมายความว่านักลงทุน และนักธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย
4.ประสบการณ์ของลูกค้า
ในปี 2023 ลูกค้าต้องการประสบการณ์เหนือสิ่งอื่นใด โดยพวกเขาต้องการที่จะเพลิดเพลินกระบวนการเลือกซื้อสินค้า, การซื้อ และสนุกไปกับบริการที่จ่ายเงินไป
5.ความท้าทาย
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของผู้คนที่มีความสามารถ โดยเฉพาะการลาออก ขณะคนที่ทำงานอยู่ก็ประเมินผลถึงผลกระทบกับงานที่ทำอยู่ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต เรื่องนี้จึงเป็นความท้าทายของนายจ้างที่จะสร้างความมั่นใจว่างานที่มีอยู่ตอนนี้มีความน่าสนใจ, ยืดหยุ่น, สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดใจ
ที่มา:franchising
#Smartsme #เทรนด์ธุรกิจ