ขณะประเทศไทยกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากเผชิญวิกฤติโควิดมานานกว่า 3 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการมากมายต่างกลับมาค้าขายกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม ที่เห็นได้อย่างระรานตาตามตลาดนัดไปจนถึงแหล่งคอมมูนิตี้มอลล์ต่าง ๆ ครั้งนี้ เราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับอีกบทบาทของธนาคารออมสิน ผู้อยู่เคียงข้างธุรกิจฐานรากมาในทุกวิกฤติ กับแคมเปญฟื้นฟู SME ครั้งล่าสุด ที่ได้ยกขบวนผู้ประกอบการแฟรนไชส์มาร่วมขยายตลาดในงาน “มหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์”

คุณปรางมาศ เธียรธนู รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ เล่าถึงการเข้าร่วมงาน “มหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์” ในครั้งนี้ว่า ด้วยธนาคารออมสินตั้งเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารเพื่อสังคม ไม่เพียงแต่การเสนอสินเชื่อรูปแบบต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังปรับโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มสายงานพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Start up โดยทำหน้าที่ยกระดับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะ และช่วงที่ผ่านมาในปีนี้ ออมสินยังได้พัฒนาหลักสูตรเพื่อผู้ประกอบการแฟรนไชส์ ภายใต้โครงการ GSB Smart Franchise

โดยมีบ.จีโนซิส(Gnosis) มาช่วยดูแลหลักสูตร พร้อมมี วิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมายเข้ามาให้ความรู้ และช่วยฟื้นฟูให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดหลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,600 ราย ซึ่งการเข้าร่วมงานมหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์ ณ เซ็นทรัลพระราม 2 ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2565 ก็ถือเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์สามารถเปิดตลาดใหม่ พร้อมจุดประกายไอเดียให้ผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้

การคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อร่วมออกบูธ ออมสินคัดเลือกมาจำนวนทั้งสิ้น 20 ราย แบ่งเป็น 10 ราย จาก SME ที่มีศักยภาพในการเขียนแผนธุรกิจได้อย่างโดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัล “Selected GSB Smart Franchise” มาครองได้ และอีก 10 ราย มาจากผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในระบบหรือมีMOUกับธนาคาร กับราคาลงทุนในโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มต้นเพียงหลักหมื่นเท่านั้น อาทิ T-ZA ชาปากยูน Lumtae Korean Chicken อ้วนนะหมูกรอบชาชู Phoenix Lava ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ชาตันหยง Bunny Shake บะหมี่ถาดกระทะเล้ง พิซซ่าบางกอกชีสทะลัก เด่นซาลาเปา ไข่หวานบ้านซูชิ เกี๊ยวซ่าพี่อาห์ หม่าล่ากวนอู อิจิทาโกะยากิ ฝรั่งคลุกบ๊วยโบราณ by Pim ธงไชย ผัดไทย HOP Chafe เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ Indy โลโซโตเกียว และMonkey B(กล้วยทอด Dip) พร้อมนำวิทยากรชั้นนำและผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมาร่วมมอบความรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนตลอด Supply Chain

ทางด้านผู้เข้ามาเยี่ยมชมงานมหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์แล้วสนใจลงทุนธุรกิจ ออมสินก็มีบูธคอยให้คำแนะนำสินเชื่อที่เหมาะสมแต่ละรายบุคคล อาทิ สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย อัตราดอกเบี้ยต่ำ 6 เดือนแรก 3.99%* ต่อปี ปลอดชำระเงินต้น 6 เดือนแรก กู้ได้สูงสุด 1,000,000 บาท ผ่อนชำระนาน 10 ปี ส่วนผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ออมสินมีสินเชื่อเพื่อคุณ ไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ 1.25%* ต่อเดือน กู้ได้สูงสุด 30,000 บาท นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังมองเรื่องการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส จึงพัฒนาโครงการช่วยผู้ค้ารายย่อยมากว่า 48 โครงการ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยมีผู้ได้รับความช่วยเหลือในระหว่างเกิดโรคระบาดไปแล้วกว่า 2 ล้านราย การเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” หรือ Social Bank เปรียบเสมือน DNA ของธนาคารออมสิน ดังนั้นออมสินจึงมุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกระดับ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตั้งแต่กลุ่มฐานราก ออมสินไม่เพียงมุ่งเน้นการให้สินเชื่อ แต่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านการมอบองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ซึ่งจัดร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 65 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โครงการออมสินอาชีวะสร้างอาชีพสู่ชุมชน โดยจัดการฝึกอบรมอาชีพวิชาช่าง 21 หลักสูตร ให้กับสมาชิกชุมชนที่มุ่งมั่นนำไปประกอบอาชีพ

สำหรับมหกรรมชี้ช่องรวยแฟรนไชส์ เปรียบเสมือนตลาดนัดแฟรนไชส์ ซึ่งได้คัดสรรและรวมรวมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมาไว้ในที่เดียว ใครที่ต้องการมีอาชีพเสริมหรือต้องการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สามารถมาจุดประกายไอเดียได้ที่งานนี้ ณ เซ็นทรัลพระราม 2 ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2565