“คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เขาทำอย่างไรถึงบรรลุเป้าหมาย” เชื่อได้ว่า ความคิดนี้มักจะวิ่งเข้ามาในหัวของผู้ประกอบการ ที่กำลังสร้างอาชีพที่มั่นคงพร้อมรายได้ที่ดี ให้กับชีวิตของตัวเอง แต่เส้นทางของคนทำธุรกิจก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถถึงฝั่งฝันนี้กันได้ คนเหล่านั้นล้วนต้องเดินผ่านทางขรุขระที่ไม่ราบเรียบโรยด้วยกลีบกุหลาบกันมาแล้วทั้งนั้น หากแต่ส่วนมาก คนที่สำเร็จในหน้าที่การงาน มักจะถูกพูดถึงแต่ปลายทาง ซึ่งเป็นจุดหมายที่สำเร็จแล้ว
ซึ่งในวันนี้ เราจะพามาถอดบทเรียน พร้อมแนวคิด ว่าก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างที่เราเห็น เขาต้องฝึกปรือ ลับคมความคิด และที่สำคัญพวกเขามีลักษณะอุปนิสัยเช่นไร ถึงมายืน ณ.จุดนี้ได้
1.เป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้ระหว่างเดินทางเห็นภาพชัด เกิดพลังใจให้เดินรุดหน้าต่อไป
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มักตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้ชัด จะคิดหรือจะทำสิ่งไหน ต้องวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า การวางแผนจะช่วยให้พวกเขาเข้าสู่เป้าหมายได้ง่ายขึ้น และประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ในแต่ละวันเขาจะต้องรู้ว่าวันนี้เป้าหมายของเขามีอะไรบ้าง แล้วต้องทำอย่างไร จึงจะไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ถ้าคุณคิดว่าเป้าหมายของตัวเองที่กำลังตั้งอยู่ในตอนนี้ มันดูใหญ่โตและไกลเกินกว่าจะทำให้สำเร็จในเร็ววัน ลองขมวดและย่อยเป้าหมาย ให้เล็กลงเป็นลำดับขั้น ให้เล็กแต่เห็นภาพชัดในวิถีของตัวเอง แต่เป้าหมายที่เล็กนี้ ก็ยังคงมีผลต่อเป้าหมายใหญ่ที่เราตั้งไว้ เพื่อให้เรามีกำลังใจเดินต่อในแบบของเรานั่นเอง
2.อย่าลืมทบทวนเป้าหมาย การจัดลำดับความสำคัญ ช่วยให้เราไม่พลาดโอกาสในเวลาที่ควร
เมื่อมีเป้าหมาย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ คุณคงไม่อยากให้เป้าหมายนั้นถูกหลงลืมไประหว่างทาง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณจะต้องบันทึกพร้อมทบทวนเป้าหมายอยู่เนืองๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราเดินทางใกล้เป้าหมายขนาดไหนแล้ว มีเป้าหมายไหนที่ตกหล่นระหว่างทางบ้าง ส่งผลให้เกิดการจัดระบบความคิด การลำดับความสำคัญว่าเราควรจะทำอะไรก่อนหลัง การทำอะไรโดยไม่จัดลำดับความสำคัญ จะทำให้เราสับสน จนไปสู่จุดมุ่งหมายที่วางไว้ได้ยาก และในบางครั้งอาจนำพาให้เราพลาดโอกาสสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย
3.หนังสือช่วยจัดการระบบความคิด พร้อมเสริมพลังสมาธิ เพื่อรองรับความรู้ใหม่ ให้คลังสมอง
ปฎิเสธไม่ได้ว่าหากเรามีโอกาสได้เห็นห้องทำงานหรือมุมชั้นวางหนังสือ ของเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จ ก็มักจะพบกับหนังสือที่วางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพวกเขาที่มักจะหาคลังความรู้หรือวิทยาการใหม่ๆ มาเติมคลังความคิดของพวกเขา ให้ยังคงพัฒนาเพื่อพร้อมก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่คลืบคลานเข้ามาทุกวินาที ซึ่งหนังสือที่พวกเขานิยมส่วนมาก จะเป็นประเภทที่ข้องแวะกับสายงานอาชีพที่ตัวเองทำ , หนังสือที่เกี่ยวกับอัตชีวประวัติของคนที่เคยประสบความสำเร็จ , หนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง , หรือหนังสือที่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่ออัปเดตความเคลื่อนไหว และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
4.ทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันให้กับงาน ไม่มีทางลัดสำหรับความสำเร็จ หากไม่ยอมแลก
คนที่ผ่านการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมักจะเป็นคนที่บ้าคลั่งกับการทำงาน พวกเขาจะยอมทุ่มให้กับงานเพื่อผลลัพธ์ที่พวกเขามุ่งหมายไว้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน จึงเป็นเรื่องปกติที่ชีวิตของพวกเขาจะดูหยุ่งเหยิง คิวรัดตัว แทบไม่มีเวลาให้กับเรื่องที่จะไม่ทำให้เป้าหมายของพวกเขาใกล้เข้ามา ซึ่งโดยเฉลี่ยคนเหล่านี้จะทำงานกันถึงวันละ 10 ชั่วโมง และในหนึ่งสัปดาห์จะหยุดพักเพียงหนึ่งวันเท่านั้น พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิต เพราะการได้ทำงานที่พวกเขาได้ตั้งเป้าหมายเดิมพันไว้เป็นเรื่องที่เขาได้ตัดสินใจพลีกายให้กับมันด้วยใจเด็ดเดี่ยวแล้ว และผลจากการทุ่มเททำงานหนักก็ทำให้ดอกผลนั้นงอกงามสมความตั้งใจ
5.ครอบครัวคือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะส่งให้เราถึงจุดหมาย
แต่แม้ว่าพวกเขาจะบ้างานขนาดไหน พวกเขาก็จะไม่หลงลืมครอบครัวไว้ข้างหลัง เพราะเขารู้ดีว่าแม้ว่าจะมีเงินมากมายขนาดไหน ก็ไม่สามารถใช้เงินซื้อครอบครัวได้ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ หากเมื่อถึงวันที่เราถึงจุดหมาย และประสบความสำเร็จอย่างใจหวัง แต่เมื่อเหลียวมองกลับมาข้างหลัง ก็ไม่มีครอบครัวที่เคยเดินร่วมทางกันแล้ว ดังนั้น ควรใช้สายสัมพันธ์ครอบครัวนี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังให้เราขับเคลื่อนตนเองพุ่งทะยานไปสู่หลักชัยแห่งความสำเร็จ ดังที่เหล่าผู้เคยประสบความสำเร็จได้ถางทางเป็นตัวอย่างเอาไว้