รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
แคนาดากำลังเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่กับการเปิดรับให้คนอพยพย้ายถิ่นฐานมาเป็นพลเมืองถาวรเพื่อเติมช่องวางในระบบเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยเจนเนอเรชัน Baby Boomers
เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลกลางประกาศแผนเชิงรุกที่เพื่อที่จะรับผู้อพยพ 500,000 คนต่อไปจนถึงปี 2025 รวมทั้งหมด 3 ปี จำนวน 1.5 ล้านคน โดยแผนงานนี้จะทำให้แคนาดาต้อนรับผู้อยู่อาศัยแบบถาวร 8 เท่าในแต่ละปีต่อประชากร มากกว่าสหราชอาณาจักร รวมถึงมากกว่าสหรัฐฯ 4 เท่า
ปฏิเสธไม่ได้ว่าแคนาดากำลังเผชิญกับจำนวนผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น สวนทางกับอัตราการเกิดที่ต่ำ แน่นอนว่าหากปล่อยให้ยืดยาวย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การเปิดรับผู้อพยพจึงเป็นทางเลือกที่จะสามารถแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้
แคนาดาย่อมหวังเห็นคนที่อพยพเข้ามาเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะสูง ก็จะเป็นการเข้ามาเติมเต็มช่องวางระหว่างวัยให้มีความสมดุล ซึ่งนี่จะเป็นเกณฑ์การคัดเลือกว่าใครจะผ่านหรือไม่ผ่าน
ข้อมูลด้านสถิติ เผยว่าเมื่อปีที่ผ่านมาแคนาดารับผู้อยู่อาศัยถาวรในแคนาดา 405,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ หากย้อนไปในอดีตก็จะพบว่าแคนาดาพยายามดึงดูดให้คนอพยพเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ โดยในปี 2032 คาดว่าจะมีการเติบโตของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศด้วยเช่นกัน
Geoffrey Cameron นักรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย McMaster กล่าวว่าขณะที่หลายประเทศ รวมถึงแคนาดากำลังเผชิญกับอัตราการเกิดที่ต่ำ และประชากรสูงวัย ความสำเร็จของการตรวจคนเข้าเมืองขึ้นอยู่กับแรงสนับสนุนของประชาชนภายในประเทศ
โดยในเรื่องนี้จะพบว่า พื้นที่ต่าง ๆ ในแคนาดามีทัศนคติที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับการอพยพถิ่นฐาน หลังจากรัฐบาลประกาศเป้าหมายเชิงรุก เช่น นครควิเบกที่จำกัดการรับผู้อพยพด้วยเหตุผลว่าจะทำให้ภาษาท้องถิ่นอ่อนแอ
ที่มา: bbc