กลยุทธ์การปรับราคาสินค้า เพื่อให้ลูกค้ายอมรับ ไม่หนีหาย


เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับราคาสินค้า หรือบริการของตนเองไปด้วย เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจให้สามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความกังวล ไม่ว่าจะเป็นการเกรงว่าลูกค้าจะลดคำสั่งซื้อ หรือหันไปสั่งซื้อสินค้าจากคู่แข่ง

กลยุทธ์การปรับราคาสินค้า เพื่อให้ลูกค้ายอมรับ เป็นทริคง่าย ๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ได้ในหลาย ๆ ธุรกิจ ทั้งนี้การปรับเพิ่มราคาอาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไปที่ใคร ๆ เขาก็ทำ หากแต่การปรับตัวเลขของราคาสินค้า หรือบริการนั้นมีผลต่อความรู้สึกของลูกค้า ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงขอนำเสนอ กลยุทธ์การปรับราคาสินค้า เพื่อให้ลูกค้ายอมรับ ง่าย ๆ ดังนี้

1. อย่าเปลี่ยนราคาที่อยู่ซ้ายสุดของราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น สินค้าราคาเดิมอยู่ที่ 155 บาท ผู้ประกอบการควรปรับราคาเพิ่มเป็น 159 จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกว่า การปรับเป็น 160 บาท

2. แยกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการเสริม เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาโดยตรง เช่น การขึ้นราคาสินค้าจาก 49 บาท เป็น 55 บาท จะส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ซื้อมากกว่าคงราคาเดิมที่ 49 และเก็บค่าบริการจัดส่งเพิ่มอีก 6 บาท

3. สร้างตัวเลือกสินค้าขึ้นมาเพิ่มเพื่อดึงความสนใจของผู้ซื้อ เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อสินค้าในระดับราคาปานกลาง (ไม่แพงที่สุด และไม่ถูกที่สุด) ที่มีอยู่ในตลาด ดังนั้น การยกระดับราคาสินค้าที่แพงที่สุดขึ้น จะทำให้สามารถปรับราคาสินค้าระดับกลางขึ้นได้อีก

4. คงราคาสินค้า แต่ลดปริมาณต่อหน่วยที่จำหน่าย เพื่อลดต้นทุนต่อหน่วยของสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการไม่ควรลดมากจนเกินไป โดยเฉพาะร้านอาหาร การลดปริมาณเครื่องปรุงลง อาจส่งผลต่อรสชาติของอาหารได้

5. เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า หรือภาพลักษณ์สินค้าพร้อมกับปรับราคาขึ้น หรือการสร้างแบรนด์ให้มีความเป็นพรีเมี่ยมมากขึ้น แล้วตั้งราคาสินค้าใหม่ที่สูงขึ้น หรืออาจใช้วิธีเพิ่มคุณสมบัติให้กับสินค้าก่อนปรับขึ้นราคา นอกจากนี้ยังทำได้โดยการการดึงคุณสมบัติที่มีอยู่แล้วของสินค้าให้มีความโดดเด่นขึ้น ให้สอดคล้องกับกระแสความนิยมก่อนปรับราคา

6. โปรโมชั่นเสริม เช่น การตั้งราคาแบบขายพ่วง โดยตั้งราคาขายพ่วงสินค้าในช่วงโปรโมชั่น ในระดับที่ถูกกว่าขายแยกสินค้า และเมื่อจบโปรโมชั่น จึงกลับมาขายแยกเหมือนเดิม โดยตั้งราคาขายแยกที่สูงกว่าราคาเดิม

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการควรมั่นดูแลเอาใจใส่มาตรฐานสินค้าของตนเองอยู่เสมอ ให้มีคุณภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้แม้เพิ่มราคาบ้างตามกระแสเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงฐานลูกค้าเอาไว้ได้ นอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว การบริการ การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความประทับให้แก่ลูกค้า และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของลูกค้าได้อีกด้วย แม้ผู้ประกอบการ จะตั้งราคาสินค้าโดยพิจารณาจากต้นทุนการผลิต ค่าขนส่ง และการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ควรพึ่งระลึกอยู่เสมอว่าผู้ซื้อตัดสินใจซื้อโดยพิจารณความพึงพอใจในสินค้า มากกว่า