รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
นิตยสาร Forbes เผยผลสำรวจ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่หลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live After Retiring) ปี 2023 พบไทยติดอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 9 ของโลก
การเปิดเผยผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดย Annual Global Retirement Index พบว่าประเทศที่น่าพำนักอยู่หลังเกษียณอันดับ 1 คือ โปรตุเกส ส่วนประเทศไทยเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 9 ด้วยเหตุผลว่าเสน่ห์ของเมืองไทยเริ่มต้นจากแสงแดดที่ร้อนแรง อากาศที่อบอุ่น และดึงดูดผู้คนที่ชื่นชอบการผจญภัย รวมถึงการสัมผัสความงามทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม โดยไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศใดในยุโรป ดังนั้น จึงยังคงวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบไม่ถูกแตะต้องจากอิทธิพลอื่นใด
รายงานยังแนะนำสำหรับคนที่อยากจะมาพำนักหลังเกษียณให้เลือกปักหลักในกรุงเทพฯ เพราะเต็มไปด้วยแสง สี เสียง และตึกใหญ่มากมาย หรือจะเลือกจังหวัดทางภาคเหนือที่มีอากาศเย็นสบายก็ได้ อีกทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านที่พักอาศัยไม่ได้แพงมากนัก โดยสามารถเลือกเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอน ในราคาไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเลือกเช่าในราคาเพียงเดือนละ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ
รายงาน 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่หลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live After Retiring) ปี 2023 ไม่ได้ระบุแค่เรื่องความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง การอยู่อาศัยแล้วมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนไม่ต้องใช้เงินมากในการอาศัย
สำหรับ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่หลังเกษียณประจำปี 2023 มีดังต่อไปนี้
1.โปรตุเกส
2.เม็กซิโก
3.ปานามา
4.เอกวาดอร์
5.คอสตาริกา
6.สเปน
7.กรีซ
8.ฝรั่งเศส
9.อิตาลีกับไทย
ที่มา: forbes