“ก่อสร้าง-อสังหาฯ-ร้านอาหาร” ครองแชมป์ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่สูงสุดไตรมาส 1/2566 จำนวน 26,182 ราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศไตรมาส 1/2566 จํานวน 26,182 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 จํานวน 15,692 ราย เพิ่มขึ้นจํานวน 10,490 ราย คิดเป็น 67% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 22,347 ราย เพิ่มขึ้นจํานวน 3,835 ราย คิดเป็น 17%
สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 2,118 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 1,916 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตา คาร ร้านอาหาร จํานวน 1,228 ราย คิดเป็น 5%
สำหรับมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่อยู่ที่ 339,595.43 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 จํานวน 75,891.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 263,703.62 ล้านบาท คิดเป็น 3 เท่า และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 74,397.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 265,197.90.36 ล้านบาท คิดเป็น 356 เท่า
โดยช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจํานวน 17,609 ราย คิดเป็น 67.26% ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 8,293 ราย คิดเป็น 31.47% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจํานวน 286 ราย คิดเป็น 1.09% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 48 ราย คิดเป็น 0.18%
ขณะที่ผลการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในเดือนมี.ค.ว่า มีจํานวน 9,179 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 299,608.53 ล้านบาท โดยธุรกิจประเภทธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ จํานวน 752 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 699 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จํานวน 440 ราย คิดเป็น 5%
ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจํานวน 5,943 ราย คิดเป็น 64.75% ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 3,090 ราย คิดเป็น 33.66% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจํานวน 117 ราย คิดเป็น 1.27% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 29 ราย คิดเป็น 0.32%
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 1/2566 มีจํานวน 3,268 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 29,892.62 ล้านบาท สอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาประเภท ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 352 ราย คิดเป็น 11% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 157 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร จํานวน 95 ราย คิดเป็น 3%
ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จํานวน 2,308 ราย คิดเป็น 70.63% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จํานวน 806 ราย คิดเป็น 24.66% ลําดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จํานวน 141 ราย คิดเป็น 4.31% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจํานวน 13 ราย คิดเป็น 0.40%
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการมีนาคม มีจํานวน 1,102 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 22,684.96 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 122 ราย คิดเป็น 11% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 58 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร จํานวน 29 ราย คิดเป็น 3%