รัฐบาลอิตาลีเรียกประชุมด่วน หลังราคาพาสต้าซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวอิตาลีพุ่งสูงขึ้นจนส่งผลกระทบกับผู้คน
ตามรายงานของกระทรวงธุรกิจอิตาลีซึ่งอ้างอิงข้อมูลของ Istat เผยว่าราคาพาสต้าในเดือนมีนาคมพุ่ง 17.5% และในเดือนเมษายนพุ่ง 16.5% สอดคล้องกับข้อมูลของ Refinitiv ที่ระบุว่าการเพิ่มขึ้นดังกล่าวคิดเป็น 2 เท่าของดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.1% ในเดือนเมษายน และ 8.7% ในเดือนมีนาคม เมื่อเปรียบเทียบรายปี
จากการสำรวจโดย International Pasta Organization ในปี 2022 พบว่าชาวอิตาลีบริโภคพาสต้าเฉลี่ยเกือบ 23 กิโลกรัมต่อปี แต่กลุ่มสิทธิผู้บริโภคของอิตาลีชื่อว่า Assoutenti เปิดเผยว่าราคาพาสต้าในร้านอาหารเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเปรียบเทียบรายปี โดยราคาขายปลีกพาสต้าที่สูงขึ้นมาจากผู้ผลิตกำลังขายพาสต้าที่กักตุนไว้ ซึ่งผลิตในราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูง
Furio Truzzi ประธาน Assoutenti กล่าวว่าเนื่องจากการจำหน่ายสินค้าในสต็อกที่มีต้นทุนสูงขึ้น อ้างอิงจากราคาข้าวสาลี และพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนมีนาคม 2022 ราคาข้าวสาลีพุ่งสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยทั้งสองประเทศเป็นผู้จัดหาสินค้าเกษตรรายใหญ่สู่ตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม Truzzi ตั้งข้อสังเกตว่าต้นทุนการผลิตได้ลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และราคาพาสต้าที่สูงขึ้นในขณะนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยอื่น ๆ
“ราคาที่สูงขึ้นเพื่อให้มีกำไรมากขึ้น ราคาจะลดลงเมื่อเผชิญกับการบริโภคที่ลดลงเท่านั้น โดยมีเสนอแผนที่จะลดการกินพาสต้าอย่างน้อย 15 วัน” ประธาน Assoutenti กล่าว
หากย้อนกลับไปในปี 2007 ชาวอิตาลีนัดหยุดงาน 1 วัน เพื่อต่อต้านการซื้อพาสต้าเมื่อมีราคาสูงเกือบ 20%
ที่มา: cnbc