“รวมพลังโต” เพื่อคนตัวเล็ก ‘สสว.’ จัดงาน SME Day 2023 จับมือ 46 พันธมิตรเดินหน้าส่งเสริม SME ครบทุกมิติ


สสว. ประกาศขับเคลื่อน SME ไทย “รวมพลังโต” พร้อมจับมือ 46 พันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบังคับคดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น เพื่อร่วมกันบูรณาการส่งเสริม SME พัฒนาข้อมูลข่าวสารสู่ดิจิทัลผ่านเว็บไซต์ www.smeone.info 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่าเนื่องด้วยสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 27 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวัน SME DAY เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ MSME ต่อการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goal เนื่องจาก MSME คิดเป็นกว่า 90% ของธุรกิจทั้งหมดทั่วโลก และสร้างงานมากกว่า 60 – 70% ของตำแหน่งงานทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจโลกถึง 50% รวมถึงมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับชาติ

โดยความสำคัญของ MSME ในบริบทของโลก ประกอบด้วย 3 มิติใหญ่ คือ

1. ช่วยสร้างงาน กระจายรายได้ และเอื้อให้เกิดธุรกิจใหม่ โดยผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่มีลักษณะธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นและมีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสการจ้างงานสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉลี่ยในทุกระบบเศรษฐกิจ SME จะมีการจ้างงานมากกว่า 70% รวมถึงเป็นการสร้างค่าครองชีพที่ดีขึ้นให้กับประชาชน และเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

2. SME มีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในทุกประเทศ โดย SME มีส่วนร่วมกับการสร้างรายได้หรือมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือ GDP อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วจะมีสัดส่วนถึงกว่า 50% ของ GDP รวมทั้งประเทศ
3. SME มีความสำคัญต่อการกระจายตัวการพัฒนาไปสู่ภูมิภาคอย่างสมดุล การจัดตั้งธุรกิจในเมืองเล็กๆ และพื้นที่ชนบทมีส่วนช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำในภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตอย่างทั่วถึง การกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจนี้ช่วยกระจายความมั่งคั่งและโอกาสอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบการ MSME อย่างมาก เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการจัดงาน SME DAY 2023 เป็นการแสดงพลังให้กับผู้ประกอบการได้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมถึงสถาบันการศึกษาเพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนพี่น้อง SME ของประเทศไทย กว่า 46 แห่ง ที่ผ่านมาทุกหน่วยงาน ทุกกรม ทำงานเพื่อ SME อยู่แล้ว แต่ในวันนี้ สสว.ชวนทุกหน่วยงานมาอยู่ในกระดานเดียวกัน เพื่อทำงานร่วมกันให้เกิดความเชื่อมโยงและช่วยเหลือกันแบบรอบด้าน และใช้วัน SME DAY เป็นวันคิกออฟ

“งานวันนี้มันเกิดขึ้นจากที่ผมได้รับเชิญไปพูดในงาน SME DAY ของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว จึงมีแนวคิดคิดว่า จริงๆ สสว.ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว น่าจะชวนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงินต่างๆ มาร่วมมือกัน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการ SME ร่วมกัน 

นอกจากการเชื่อมต่อในระดับกรม สสว.ยังทำเรื่องเชื่อมโยงในระดับจังหวัดด้วย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ติดตามว่าในแต่ละจังหวัดมีผู้ประกอบการ SME มากน้อยเพียงใด ได้รับการสนับสนุนในด้านบ้าง เช่น ตัวอย่างที่จังหวัดน่าน สสว. ได้ทำระบบส่งต่อแล้ว”

“ที่ผ่านมาแพลตฟอร์มของ สสว. มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 6 แสนครั้งต่อปี และมีจำนวนหน่วยงานที่แลกเปลี่ยนเนื้อหาข่าวสารกันมากกว่า 70 หน่วยงาน ซึ่งถือได้ว่า ประสบความสำเร็จในเชิงความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการพัฒนา MSME อย่างเห็นได้ชัด ทุกหน่วยงานที่มาในวันนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งเสริมผู้ประกอบการ MSME ของประเทศ” นายวีระพงศ์ กล่าว

“SME CONNEXT” ช่วย SME โตอย่างมั่นคง

นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ การเสวนาหัวข้อ ติดต่อรัฐไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดจากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 5 หน่วยงาน / Showcase โตหลายเท่าแค่เข้าถึง SME ACCESS : ความสุขคำโตกับแนวคิด BCG Mode เพื่อคนไทยกินอะไรก็สุขทุกคำ ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลแพลตฟอร์มออนไลน์ของ สสว. ได้แก่ SME COACH , SME ONE, THAI SME-GP รวมถึงแอปพลิเคชัน SME CONNEXT เป็นตัวช่วยในการขยายธุรกิจ พร้อมทลายขีดจำกัดในการประกอบธุรกิจ ทำให้เติบโตอย่างมีทิศทางและมั่นใจ เหมือนมี สสว. อยู่เคียงข้าง

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=oQZ1kGiIMYU