เศรษฐกิจไม่ดี แต่..ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังคึกคัก ! เพราะในประเทศไทยยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3-4 ต่อปี และมีการบริโภคโดยรวมของคนไทยอยู่ที่ราว 3,700 ล้านซองต่อปี หรือเฉลี่ยคิดเป็น 1 คน บริโภค 1 ซองต่อวัน
ทั้งนี้ ยอดขายของ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะขายดีหรือไม่ นอกจากการทำตลาดแล้ว ยังขึ้นอยู่กับอานิสงส์และปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ยกตัวอย่างที่เห็นกันล่าสุด จากข่าวคราวและกระแสที่ ‘เจ๊ไฝ’ โกอินเตอร์ถูกเชิญให้ช่วยคิดสูตรรสต้มยำกุ้งให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ดังของประเทศเกาหลี ทำเอาคนไทยรู้สึกภาคภูมิใจ และประเทศไทยก็สามารถสร้างชื่อและคอนเฟิร์มให้ทั่วโลกรับรู้อีกครั้งว่า อาหารไทยสุดยอดระดับโลกอย่างแท้จริง
โดยจากกระแสดังกล่าวทำให้เรากลับมาสนใจผลิตภัณฑ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กันอีกครั้ง เพราะสำหรับคนไทยที่ถือได้ว่า คุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน หรือสูงวัย เจนไหน ๆ ชนชั้นใด ย่อมต้องมีติดบ้านติดที่พักอาศัยกันทุกคน ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่แค่คนไทยที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ ก็บริโภคเหมือนกันและมากกว่าประเทศไทยเราด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น
10 ประเทศบริโภคบะหมี่ซองมากสุดในโลก (ข้อมูลเมื่อ ปี พ.ศ.2556)
1.) จีน/ฮ่องกง
2.) อินโดนีเซีย
3.) ญี่ปุ่น
4.) เวียดนาม
5.) อินเดีย
6.) สหรัฐฯ
7.) เกาหลีใต้
8.) ไทย
9.) ฟิลปปินส์
10.) บราซิล
สาเหตุสำคัญที่บะหมี่ซองหรือแบบถ้วยสำเร็จรูปขายดี ผ่านมากี่ปี ๆ คนก็ยังบริโภค หลัก ๆ อาจะสรุปได้ดังนี้
• ราคาถูก เข้าตำราสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ แต่มาเป็นไร มือนี้เราก็ยังมีเธอ
• เหมาะทานสำหรับชั่วโมงเร่งด่วน เอาสะดวก เอารองท้องเข้าว่าไว้ก่อน และได้ผลเป็นอย่างดี
• ประยุกต์ได้กับวัตถุดิบได้เยอะ เช่น ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ เต้าหู้ ทำให้กลายเป็นเมนูหรูน่ากินและมีคุณค่าสารอาหารเพิ่มขึ้นได้
• นอกจากบริโภคในครัวเรือนแล้ว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังถูกใช้ปรุงเป็นอาหารตามร้านอาหารอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ผัดมาม่า ก๋วยเตี๋ยวเส้นมาม่า ร้านหมูกระทะ ร้านอาหารเกาหลี เป็นต้น
โดยข้างต้น เราได้กล่าวถึงประเทศเกาหลีที่ให้เกียรติเชิญ “เจ๊ไฝ-สุภิญญา จันสุตะ” เจ้าของร้านอาหารแนวสตรีทฟู๊ด (Street Food) ชื่อดังระดับโลก การันตรีด้วยรางวัลมิชลิน 1 ดาว (Micheline Star) ตลอด 3 ปีซ้อน เพื่อเป็นหนึ่งในคณะทำงานรังสรรค์รสต้มยำกุ้งให้กับผลิตภัณฑ์ Shin Ramyun ของเกาหลีใต้ แต่เพื่อน ๆ รู้ไหม ? ว่า มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์นอกมากมายเลยนะ ที่นำเข้ามาขายในบ้านเรา หลายคนอาจทราบ แต่เชื่อว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์นอก ที่คนไทยชื่นชอบบริโภคมากที่สุด
• Indomie รสไก่บาร์บีคิว จากประเทศอินโดนีเซีย
• MyKuali รส Penang White Curry จากประเทศมาเลเซีย
• Nongshim Shin รสเนื้อ จากประเทศเกาหลีใต้
• Sapporo Ichiban รส Tokyo Chicken Momosan จากประเทศญี่ปุ่น
• Ibumie Mi Goreng รส Curry Kapitan จากประเทศมาเลเซีย
• Myojo Chukazanmai รสโชยุ จากประเทศญี่ปุ่น
• MyKuali รส Penang Spicy Prawn จากประเทศมาเลเซีย
• Maggi รส Masala Spicy จากประเทศอินเดีย
• Indomie (Mi Goreng) รสดั้งเดิม จากประเทศอินโดนีเซีย
วัดพลัง ! สามแบรนด์นู้ดเดิ้ลไทย ใคร ? ครองตลาด
สำหรับประเทศไทย หากจะเอ่ยถึงยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน และที่มียอดขายในประเทศไทยมากที่สุด โดย 3 อันดับแรก คงหนีไม่พ้นตามนี้แน่นอน
มาม่า
บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)
ก่อตั้งเมื่อ : ปี พ.ศ.2515 ปัจจุบันครบ 51 ปี
ทุนจะทะเบียน : 330 ล้านบาท
CEO : คุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์
ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565
รายได้รวม : 16,947 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 1,925 ล้านบาท
แบรนด์ในเครือ : มาม่า , Bissin , Ruski , Green Mate ก่อตั้งเมื่อ : ปี พ.ศ.2515 ปัจจุบันครบ 51 ปี
ไวไว
บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด
ทุนจะทะเบียน : 600 ล้านบาท
CEO : คุณปรีชา นภาพฤกษ์ชาติ
ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565
รายได้รวม : 7,734 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 125 ล้านบาท
แบรนด์ในเครือ : ไวไว , ควิก , ซือดะ , รสเด็ด(ผงปรุงรส) ก่อตั้งเมื่อ : ปี พ.ศ.2514 ปัจจุบันครบ 52 ปี
ยำยำ
บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด
ทุนจะทะเบียน : 60 ล้านบาท
CEO : คุณยูจิ มิซุตะ
ผลประกอบการ ปี พ.ศ.2565
รายได้รวม : 6,106 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 296 ล้านบาท
แบรนด์ในเครือ : ยำยำสูตรเด็ด , ยำยำจัมโบ้ , ยำยำช้างน้อย , ยำยำเส้นแบน
จากตารางจะสังเกตได้ว่า 3 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ แห่งวงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเมืองไทย มีการก่อตั้งบริษัทระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน รวมถึงมีรายได้รวมและกำไรจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปี 2565 ซึ่งไม่แตกต่างกันมากนัก
อย่างไรก็ดี ตัวเลขรายได้รวมของ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด นั้นมีผลิตภัณฑ์รายการอื่น ๆ ด้วย เช่น ขนมอบกรอบ ซึ่งจำหน่ายในประเทศเช่นกัน จึงมีมูลค่ารายได้รวมที่ทำให้สูงกว่าแบรนด์อื่น แต่หากคิดเป็นการถือครองส่วนแบ่งเฉพาะสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว สรุปได้ว่า
• มาม่า ถือครองส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 45
• ไวไว ถือครองส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 24
• ยำยำ ถือครองส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 22
การแข่งขันในสมรภูมิบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยแต่ละแบรนด์ต่างฝ่ายต่างปรับกลยุทธ์คลอดออกมาเอาใจกลุ่มผู้บริโภค
จะขอยกตัวอย่างของ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ ‘ยำยำ’ ที่แม้ว่าจะถือครองสัดส่วนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ 2 แบรนด์ใหญ่ ทว่าในปี พ.ศ.2566 นี้ ได้มีการเพิ่มรสชาติตัวสินค้าให้หลากหลาย และมีการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อเอาใจผู้บริโภคอย่างชัดเจน เช่น
สินค้าของยำยำ มีจำหน่าย 4 รูปแบบ ประกอบด้วย
• “ยำยำสูตรเด็ด” สำหรับกลุ่มพรีเมียมแมส มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 10% ของยอดขายทั้งหมด
• “ยำยำ จัมโบ้” แบบซอง เป็นสินค้าพระเอกประจำยำยำ สัดส่วนยอดขาย 60-70% ตามด้วย
• “ยำยำ คัพ” เเละ “ยำยำช้างน้อย” ประมาณ 20%
โดย ยำยำ ช้างน้อย เจาะกลุ่มลูกค้าเด็ก อายุ 6-12 ปี , ยำยำ คัพ และ ยำยำ สูตรเด็ด แบบซองและแบบถ้วย เน้นจำหน่ายและเข้าถึงกลุ่ม Gen-Z และ ยำยำ จัมโบ้ สำหรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่ 18- 55 ปี เป็นต้น
เเละล่าสุด ! “ยำยำ” ได้หยิบเอา ยำยำ สูตรเด็ด โฉมใหม่ เปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ และรสชาติ ปรับโฉมโลโก้ ยำยำ สูตรเด็ด แบบใหม่ ให้โดดเด่นมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังดึงตัว โบกี้ไลอ้อน (Bowkylion) นั่งเเท่นพรีเซนเตอร์ ไอคอนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีคาแรกเตอร์ตรงกับยำยำสูตรเด็ด สร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม
เห็นไหมว่า แต่ละแบรนด์ไม่หยุด R&D ต่างฝ่ายต่างงัดจุดแข็งจุดเด่น คิดค้นกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ มาม่า , ไวไว , ยำยำ เพียงเท่านี้ แต่แบรนด์อื่น ๆ ก็ยังคงไม่หยุดพัฒนาสินค้าและบริการออกมาสู่ตลาดเรื่อย ๆ เพราะแต่ละคนก็หวังที่จะเข้ามาเป็นส่วนส่วนหนึ่งของ Market Share ขอแบ่งเค้กก้อนนี้สักชิ้น ถ้ามีโอกาส..
แม้เป็นผู้นำแต่ก็อย่าได้ประมาท เพราะยังมีผู้ตามอีกหลายคนที่พวกเขาไม่เคยคิดจะหยุดวิ่ง
ที่มา:
https://themodernist.in.th/noodle-thailand2021/
https://www.facebook.com/quickzabb
https://www.facebook.com/iloveyumyum
https://www.facebook.com/MamaloverFanPage