9 เรื่องจริง! ของ iPhone ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน


ฮือฮา และ มาตามคาด ! วันวอ. เวลานอ. เป๊ะ ๆ หลังจาก Apple ที่สหรัฐฯ (สำนักงานแอปเปิลพาร์ค ) จัดงานแถลงเปิดตัว iPhone 15 ภายใต้ชื่องาน the Wonderlust เป็นที่เรียบร้อย เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสรุปตามสื่อหลายสำนักอัปเดตว่า มีการเปิดตัว iPhone 15 Series จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย

• iPhone 15
• iPhone 15 Plus
• iPhone 15 Pro
• iPhone 15 Pro Max

ข่าวดียังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ สำหรับสาวก ‘ไอโฟน’ ของบ้านเรา เพราะมีรายงานระบุอีกว่า ประเทศไทยติดกลุ่มประเทศ Tier 1 ซึ่งแอปเปิลจะเปิด ‘พรีออเดอร์’ ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 22 ก.ย. 66 นี้ !!

ราคาจำหน่าย iPhone 15 ในไทย (โดยประมาณการ)

ราคา iPhone 15
ความจุ 128 GB ราคา 32,900 บาท
ความจุ 256 GB ราคา 36,900 บาท
ความจุ 512 GB ราคา 45,900 บาท

ราคา iPhone 15 Plus
ความจุ 128 GB ราคา 37,900 บาท
ความจุ 256 GB ราคา 41,900 บาท
ความจุ 512 GB ราคา 50,900 บาท

โดยมีทั้งหมด 5 สี คือ สีดำ, สีฟ้า, สีเขียว, สีเหลือง และสีชมพู สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้วันที่ 15 กันยายน 2566 เริ่มตั้งแต่เวลา 19:00 น. พร้อมจัดจำหน่ายวันที่ 22 ก.ย.66 นี้

กระแสเปิดตัว iPhone 15 ทำให้ Smart SME ขอถือโอกาสย้อนรอยแบรนด์ Apple ผู้ผลิต iPhone สมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลก ! ทบทวนความทรงจำสำหรับเพื่อน ๆ อีกครั้งหนึ่ง ว่าเพราะอะไร iPhone ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการสื่อสารของมนุษย์ในยุคนี้ และถึงได้รับความนิยมและผู้คนที่คลั่งไคล้รอต่อคิวเพื่อเป็นเจ้าของกันทุกรุ่น ทุกสาขา ทั่วโลกได้ขนาดนี้

1.) iPhone เผยโฉมครั้งแรก โดย Steve Jobs เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2007 ในงาน Macworld Convention ที่ Moscone Center ซานฟรานซิสโก โดยมี 2 โมเดล 4 GB ราคา 499 เหรียญ และ 8 GB ราคา 599 เหรียญ ก่อนที่จะถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าจริง ๆ ในวันที่ 29 มิถุนายน 2007 โดยในวันนั้น มีผู้คนต่อคิวซื้อเจ้ามือถือไร้ปุ่มเครื่องนี้มากกว่าร้อยคนในหลายสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา

2.) iPhone คือ ร่างที่พัฒนามาจาก iPod เครื่องเล่นเพลงที่ย้อนกลับไปเกือบ 20 ปีที่แล้วขายดีเป็นอย่างมาก แต่ Steve Jobs มองว่าต้องมองหาโปรดักซ์ใหม่ มารองรับอนาคต จึงเป็นโจทย์ให้ Apple พัฒนาสินค้าใหม่ ๆ โดยริเริ่มไอเดียตั้งแต่ปี 2004 ก่อนจะสำเร็จจริงในปี 2007

3.) จุดเด่นสำคัญของไอโฟน นอกจากดีไซน์แล้ว ยังเป็นเรื่องของระบบปฏิบัติการที่ Apple พัฒนาขึ้นมาเอง ภายใต้ชื่อ iOS ซึ่งเป็นการงานเฉพาะอุปกรณ์ของ Apple ที่สร้าง Eco-System แบบ App Store ขึ้นมา โดยโฟกัสที่ทำให้ผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple มีแอคเคานท์ iTune ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างเงินอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น เพลง ภาพยนตร์ เกม หรือแอปพลิเคชัน ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของ Apple

4.) iPhone เปลี่ยนโลก ! คำนี้ไม่ได้โม้ ! นั่นคือ วิธีการที่ผู้ใช้งาน กดคำสั่ง ป้อนตัวอักษรและตัวเลข ที่ใช้เพียงแค่ “นิ้วมือ” สัมผัสไปที่จอได้เลย โดยที่ไม่ต้องมี “ปุ่ม” ทิศทางซึ่งนั่นทำให้การบังคับหน้าจอมีอิสระรอบด้านบนหน้าจอ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องใช้ Stylus แต่เป็นนิ้วมือของผู้ใช้งานเลย ซึ่งนั่นทำให้สะดวกกับวงการเกม ที่ภายหลัง สมาร์ทโฟมค่ายอื่น ๆ ได้พัฒนารูปแบบการใช้งานด้วยการควบคุมหน้าจอสมาร์ทโฟนด้วยวิธีนี้เช่นกัน

5.) การสัมผัสหน้าจอทัชสกรีน ได้พลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแนวทางการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบนี้ ได้ถูกพัฒนาต่อยอด และเป็นต้นกำเนิดของ Tablet รวมทั้งคอมพิวเตอร์บางส่วน และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นอีกมากมาย

6.) iPhone มีอิทธิพล ทำให้รูปแบบการสื่อสารของโลกพลิกโฉมทั้งหมด จากที่สื่อสารผ่าน “เสียง” ได้เปลี่ยนเป็นการสื่อสารผ่าน “ตัวหนังสือ ภาพ และ วิดีโอ” หรือเป็นการใช้งานแบบประมวลผลหรือ Data

7.) iPhone ถูกใช้งานแทนที่ปฏิทิน นาฬิกา แผนที่ อุปกรณ์นำทาง GPS เครื่องเล่นเพลง เครื่องเล่นวิดีโอ สมุดจดบันทึก หรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ คือการมาทำลายล้าง Disrupt อุตสาหกรรมวงการต่าง ๆ อย่างแท้จริง

8.) เกิดเป็นโปรดักส์อื่น ๆ ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น Apple Watch จนถึง AirPods ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ประเภทหูฟังไร้สายทั้งหลาย

9.) ข้อไม่ดีก็มีเหมือนกันนะ โดย iPhone ก็มีอิทธิพลทำให้เกิดปัญหาสังคม เช่น พฤติกรรม FOMO (Fear of Missing Out) สังคมติดจอ ความห่างเหินระหว่างบุคคล หรือแม้แต่อาการสมาธิสั้นในวัยเด็ก

ประเด็นวางจำหน่าย iPhone 15 Series ในประเทศไทยคงต้องเกาะติดสถานการณ์กันต่อไปอีกไม่กี่วันนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นสาวก iPhone ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าหากคุณพร้อมที่จะเป็นเจ้าของตัว ซีรีย์ใหม่ล่าสุดนี้

แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเป็นเจ้าของ iPhone 15 แต่สภาพคล่องทางการเงินยังไม่พร้อม แอดมินแนะนำ ยังไม่ต้องรีบร้อน โดย iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไหน ๆ ก็ใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน อย่าตามกระแสจนเกินเหตุ จนต้องมานั่งต้มมาม่ากินทสิ้นเดือน ไม่เอานะ !