ทุกคนมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุด!กรณี “ลิซ่า BLACKPINK” อาจไม่ต่อสัญญา YG เราเห็นอะไรจากเรื่องนี้


หนึ่งในศิลปินไทยที่โด่งดังมีชื่อเสียงในเวทีระดับโลก แน่นอนว่าชื่อของ ลิซ่า แห่งวง BLACKPINK ย่อมผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ ด้วยผลงานเพลงที่ออกมาแต่ละครั้งได้รับความนิยมจากผู้ฟัง ยอดวิวแตะหลักร้อยล้านวิว ส่งผลให้สมาชิกของวง ไม่ว่าจะเป็น จีซู, เจนนี, โรเซ และลิซ่า สามารถสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง และทำเงินอย่างมากมายมหาศาลให้กับต้นสังกัดอย่าง YG ENTERTAINMENT

อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ยินข่าวลือที่ค่อนข้างหนาหูออกมาว่า “ลิซ่า BLACKPINK” อาจไม่ต่อสัญญาไปต่อกับ YG ENTERTAINMENT แม้จะเดินทางร่วมกันมาเป็นระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2016 สวนทางกลับเพื่อน ๆ อีก 3 คน ที่ออกมายืนยันว่าได้ตอบตกลงเซ็นสัญญาฉบับใหม่เป็นที่เรียบร้อย

ส่วนกรณีของลิซ่านั้น ถึงยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ แต่เมื่อมีกระแสข่าวออกมาไม่ต่อนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ YG ENTERTAINMENT เอง โดยหุ้นของบริษัทร่วงลงเกือบ 9% ภายในวันเดียว อีกทั้ง ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม หุ้นก็เคยล่วงถึง 7% จากกรณีเกี่ยวกับการต่อสัญญาของลิซ่า

เรื่องการต่อสัญญานี้ใช่ว่า YG ENTERTAINMENT จะนิ่งอยู่เฉย เพราะมีรายงานข่าวบริษัทได้ยื่นข้อเสนอ (เป็นครั้งที่ 2) ที่มีมูลค่าสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี ท่ามกลางกระแสว่ามีค่ายยักษ์ใหญ่พร้อมทุ่มทุนที่เสนอสัญญาหลายสิบล้านเพื่อล่าลายเซ็นของเธอ

อย่างไรก็ตาม YG ENTERTAINMENT ได้ออกมาแก้ข่าว โดยบอกว่าสัญญาฉบับใหม่ของ ลิซ่า ยังคงมีการหารือ และดำเนินการต่อไป

 

 

สำหรับกรณีของลิซ่านี้ เราสามารถมองคล้ายกับการทำงานในองค์กรองค์กรหนึ่ง โดยเราอาจมีสถานะเป็น พนักงาน หรือลูกจ้าง ที่ต้องปฏิบัติตามกฎ หรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดึงศักยภาพที่มีอยู่เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจมากที่สุด ซึ่งในกรณีของ BLACKPINK เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเราทุ่มเทพละกำลังให้กับธุรกิจแล้ว สิ่งที่ทุกคนอยากจะได้กลับมาคือผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบมากจนเกินไป แต่หากไม่สามารถตกลงร่วมกันกับสิ่งที่ต้องการได้ บางครั้งการแยกทางจึงเป็นคำตอบในเรื่องนี้ในที่สุด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง