“ESG” กลายเป็นกติกาใหม่ในการทำธุรกิจ นักลงทุน และ ผู้ประกอบการธุรกิจ หากรู้จักและเข้าใจ ESG ก่อน ย่อมมีความได้เปรียบในการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
เช่นเดียวกับปัจจุบัน ที่มีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจไทยหลาย ๆ แบรนด์ที่เริ่มให้ความสนใจกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ที่ได้มีการวางกลยุทธ์และแนวทางการบริหารความเสี่ยง ESG เพื่อให้สามารถบริหารจัดการผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและสร้างโอกาสในการเติบโตและแข่งขันได้ในระยะยาว
ตัวอย่างการทำธุรกิจภายใต้ “ESG” ในบ้านเรา ตอนนี้มีอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ที่โดดเด่น คงหนีไม่พ้นเชนธุรกิจที่เกี่ยวกับกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) ซึ่งปัจจุบันยิ่งได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยสำหรับรถยนต์ EV ไม่ต้องพูดถึง เพราะมีหลายค่ายจากต่างประเทศที่ผลิตออกมาจำหน่ายสู่ตลาดโลก แต่หากพูดถึง รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย 100% ต้องนึกถึงแบรนด์นี้แบรนด์เดียวเท่านั้น ! ETRAN MYRA (อีทราน ไมร่า)
โดยกระแสของ ETRAN MYRA ถูกพูดถึงมาก ๆ ในขณะนี้ ในฐานะ นวัตกรรมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย 100% ที่เกิดจากแนวคิดและฝีมือโดยคนไทยแท้ ๆ โดยถือเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของไทย ที่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย บริหารโดย “คุณสรณัญช์ ชูฉัตร” ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด
Smart SME อดไม่ได้ ต้องขอเกาะกระแส นำเรื่องราวของแบรนด์นี้มาฝากเพื่อน ๆ ให้ได้รู้จักและภาคภูมิใจไปด้วยกัน กับการทำธุรกิจรักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งแวกล้อม ไปกับ ETRAN สองล้อหมุนไป.. ด้วยพลังงานสะอาด.. เปลี่ยนโลก !
ข้อมูลธุรกิจ
บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด ETRAN (THAILAND) COMPANY LIMITED
วันที่จดทะเบียนบริษัท : 18 ม.ค.2559
ผลประกอบการ
ปี 2564
รายได้ : 11.5 ล้านบาท
ขาดทุน : 2.5 ล้านบาท
ปี 2565
รายได้ : 39.5 ล้านบาท
ขาดทุน : 38.5 ล้านบาท
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ETRAN ซึ่งประกอบธุรกิจออกแบบพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “อีทราน” โดย “คุณสรณัญช์ ชูฉัตร” บอกว่า เกิดขึ้นจากความบังเอิญทำธุรกิจนี้ เกิดจาก 8 ปืที่แล้ว ได้มีโอกาสนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปทำธุระ แล้วพบว่า เหม็นควันมาก ๆ จึงคิดว่าทำไม ? ไม่มีใครทำอะไรกับเรื่องนี้เลย
ซึ่งจริง ๆ แล้วส่วนตัว ไม่ได้ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ แต่แค่หงุดหงิดว่า ไม่มีคนทำ จึงเป็นแนวคิดต่อยอดและริเริ่มประดิษฐ์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพราะมัน คือ โอกาสของเรา เราสามารถจะสร้างอะไรก็ได้ ในวันที่โลกยังไม่มีใครทำ เพียงแต่การเริ่มต้นก่อนได้เปรียบก็จริง แต่็เป็นเรื่องที่ยากและท้าทายไม่น้อย จึงควรจะวางแผนและเริ่มกระบวนการทำให้ออกมาดีที่สุด
ETRAN MYRA (อีทราน ไมร่า) หากนิยามการทำธุรกิจสั้น ๆ อาจพูดได้ว่า เป็นการดำเนินธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง คุณสรณัญช์ มองว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่อีกมุม คือเราเพิ่งเริ่มต้น เราทำตั้งแต่แรก เราปรับได้ง่ายกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ๆ ที่เขาทำกันมานาน เวลาจะปรับเปลี่ยนอะไรที อาจจะยุ่งยาก ต้องปรับหลายอย่าง ซึ่งเรามองว่า ทำให้ถูกตั้งแต่เริ่มต้นนะได้เปรียบ
เราเป็นแบรนด์ Start Up ของคนไทยที่โด่งดังในเอเชีย ที่ออกแบบและผลิตเองทั้งหมด ทั้งตัวรถ ซอฟต์แวร์ ฯลฯ เราทำ 2 ล้อไฟฟ้า เพราะมันน่าจะถูกที่สุด และพัฒนา Eco-System ทำให้รถไฟฟ้ามันเกิดขึ้นได้จริง
นอกจากนี้ ยังมีการ Develop การทำ Mobile Apps เอง ทำสถานีจุดชาร์จเอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ผมมองว่า จุดนี้มันเป็นโอกาส ที่ธุรกิจที่เราสร้างมีนวัตกรรม มีความทันสมัย ปรับตามพฤติกรรมคนที่เข้าถึงเทคโนโลยี เกิดการจ้างงานเกิดขึ้นใหม่ ๆ ช่างฝีมือก็ได้มีทักษะการซ่อมรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ชำนาญขึ้น อัพฐานเงินเดือนให้สูงขึ้นได้ เป็นต้น
ETRAN ยิ่งขับยิ่งหลงรัก ! นวัตกรรมยานยนต์ที่แตกต่าง ทุกกิโลเมตร คือ พลังงานสะอาด
– อีทราน MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
– ทำความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
– ออกแบบโดยเน้นการปรับเปลี่ยนให้สามารถรองรับอุปกรณ์พิเศษ เช่น กล่องขนส่ง ตู้เย็น อุปกรณ์ติดตาม และระบบบริหารจัดการเครือข่ายขนส่งขนาดใหญ่แบบครบวงจร
– โดยจะเปิดรูปแบบ “ให้เช่าใช้งาน” ก่อนในช่วงแรก ตั้งราคา ค่าเช่าวันละประมาณ 100 กว่าบาท (ราคาเปลี่ยนแปลงได้ โปรดติดตามได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/ETRANgroup/?locale=th_TH)
– ลดค่าใช้จ่าย เสียภาษี เพียงปีละ 50 บาท โดยกรมการขนส่งทางบก มีนโยบายสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า ด้วยการจัดเก็บอัตราภาษีรถประจำปีในอัตราที่ต่ำกว่ารถทั่วไป จึงทำให้มีการเก็บภาษีสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประจำปีอยู่ที่อัตราคันละ 50 บาทเท่านั้น
– Etran Myra (อีทราน) ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจระบบให้เช่า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ คือ กลุ่มองค์กรต่าง ๆ ซึ่งออกแบบและให้บริการ ทำให้การเดินทางของทุกท่านสะอาดที่สุด
– นอกจากนี้ ปัจจุบัน Etran Myra ได้เปิดแฟรนไชส์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เช่า เจาะกลุ่มตลาดท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเปิดตัวให้บริการทางภาคใต้ ในจังหวัดที่มีสนามบินนานาชาติ (ในเฟสแรก)
– สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 – ปัจจุบัน อีทราน ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 คัน รายได้ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งคาดหมายรายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท
– และในปี พ.ศ.2566 นี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตก้าวกระโดดแตะ 1,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารวม
คุณสรณัญช์ บอกด้วยว่า “อีทราน เราทำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด 100% ทุกวันนี้ คนเราเลือกซื้อและใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น ซึ่งคนที่ใช้รถอีทราน จะรู้สึกว่า มีส่วนช่วยให้โลกดีขึ้น และช่วยประหยัดน้ำมัน เราจึงอยากให้อีทรานเป็นรถที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการขนส่ง ด้านศรษฐกิจ และธุรกิจที่ทำให้โลกใบนี้สะอาดขึ้นได้ จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี่แหละ”
