สำหรับวัยรุ่นที่ตื่นสายทั้งหลาย แอดฯ อยากชวนเพื่อน ๆ ให้ฝึกการตื่นเช้ากันบ้าง โดยหยิบยกถึงประโยชน์ดี ๆ ของการ “ตื่นเช้า”นำมาฝาก.. พร้อมรู้เคล็ดลับวิธีตื่นเช้า ที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อให้ชีวิตกลับมาเข้าที่เข้าทาง และสร้างสมดุลได้ดีเหมือนเดิม
ตื่นเช้า ได้ประโยชน์อะไร ?
• ตอนเช้า อากาศมักสดชื่น แถมอากาศในตอนเช้า ยังมีวิตามินที่ดีกับร่างกายอีกด้วย
• ไม่ต้องรีบร้อนแข่งขันกับเวลา คนตื่นเช้า ไม่ต้องกลัวรถติด ไม่ต้องกลัวไปไม่ทัน ได้อาบน้ำสบาย ๆ ไม่ต้องรีบ
• ได้พบกับความสงบ ตอน เช้าสงบเงียบ ไร้เสียงใด ๆ ถ้าใครคิดงานไม่ออก ลองตื่นเช้ามานั่งทำงานที่ค้างไว้ รับรองคิดออกแน่ ๆ แต่คุณต้องนอนหลับสนิท มาตลอดทั้งคืนด้วยนะ
• มีเวลาสำหรับการออกกำลังกาย ตื่นเช้ามาออกกำลังกายสักนิด เพื่อสุขภาพที่ดี
• ได้ทานอาหารเช้า อาหาร มื้อสำคัญ ที่ชอบมองข้าม อาหารเช้า เป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด กินได้เยอะที่สุด เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เราต้องเติมพลังงานให้เต็มที่ ก่อนเริ่มวันใหม่
• มีเวลาให้กับเป้าหมายในชีวิต เชื่อว่า ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตกันทุกคน และก็ไม่มีเวลาไหนหรอกที่เหมาะกับการใช้เวลาทบทวนเป้าหมายและวางแผนไปกว่าเวลาในตอนเช้า
• ขับถ่ายของเสีย ใน ช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่อวัยวะเริ่มทำงาน ทั้งลำไส้เล็กและสำไส้ใหญ่ ที่เริ่มขับของเสียออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายขับของเสียต่าง ๆ ออกได้หมด ผิวพรรณก็จะสดใส จิตใจเบิกบาน สดใส พร้อมที่จะลุยงานให้สำเร็จ
อยากตื่นเช้า ทำอย่างไร ?
1. ตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้น 15 นาทีทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มไปอีก 15 นาทีในสัปดาห์ถัดไป ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ต้องการ เพื่อให้ง่ายและไม่ทรมานตัวเองมากเกินไป (ต้องเข้านอนให้เร็วขึ้นด้วย)
2. หาแรงจูงใจกระตุ้นตัวเอง ไม่ควรรู้สึกว่าการตื่นเช้าน่าเบื่อ อาจหาเป้าหมายพิเศษที่ทำให้คุณมีความสุข เช่น ตื่นเช้าเพื่อทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกงาน เป็นต้น
3. ให้รางวัลตัวเอง เช่น หากตื่นเช้าได้ตามเวลาที่กำหนดได้ติดต่อกัน 1 เดือน ก็จะไปกินข้าวร้านหรู 1 มื้อ หรือซื้อเสื้อผ้า/รองเท้า/กระเป๋า ให้ตัวเอง 1 ชิ้น เป็นต้น
4. เมื่อตื่นนอนแล้ว ต้องรีบลุกออกจากเตียง/ห้องนอน ให้เร็วที่สุด เพราะการโอ้เอ้อยู่บนเตียงจะทำให้อยากกลับไปนอนต่อ
5. หลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าก่อนนอน (แสงจากจอมือถือ/แทปเล็ต/ทีวี) เพราะแสงสีฟ้าจะทำให้สมองตื่นตัว หลับยาก ดังนั้นควรปิดหน้าจอ 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
6. อย่าเคร่งครัดเกินไป ไม่ว่าจะทำอะไรก็ควรทำอย่างพอดีและยืดหยุ่น การฝึกตื่นเช้าก็เช่นกัน หากวันไหนเหนื่อยมาก เพลีย หรือไม่สบาย ก็อนุญาตให้ตัวเองตื่นสายได้
7. หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักและรสเผ็ดในช่วงดึก เพราะมักจะเป็นสาเหตุของอาการจุกเสียดท้องหรืออาหารไม่ย่อย ซึ่งส่งผลให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทตลอดคืน ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพโยงไปถึงตื่นสายในที่สุด เป้าหมายการตื่นเช้าก็จะพังลงทันที
ใครที่อยากปรับนาฬิกาชีวิตใหม่ ฟื้นฟูให้ร่างกายตัวเองกลับมาเข้าสู่โหมดนอนเร็วและตื่นเช้าได้ในทุกวัน ก็ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองว่ามีส่วนช่วยให้ทำสำเร็จได้มากขึ้นแน่นอน