เปลี่ยนบรรยากาศ! 10 เมืองที่เหมาะกับทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย


แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน และอาจจะจบลงแล้ว แต่การทำงานระยะไกล หรือที่เรียกว่า “workcation” จะกลายเป็นเทรนด์ที่คาดการณ์ว่ายังคงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะคนรุ่นมิลเลนเนียล และ Gen Z ที่ยังคงทำงานไปพร้อมกับการไปเยือนจุดหมายปลายทางที่พวกเขาชื่นชอบ

ตามรายงานของ WorkMotion แพลตฟอร์มทรัพยากรมนุษย์ ได้วิเคราะห์ 85 เมืองทั่วโลก เพื่อหาคำตอบว่าเมืองเหล่านี้นั้นมีความง่าย และน่าสนใจเพียงใดสำหรับคนทำงานระยะไกล โดยรายงานฉบับนี้อ้างถึง “ที่ทำงาน” สำหรับการอาศัยระยะสั้นประมาณ 12 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ขณะที่ทำงานนอกสถานที่ ผ่านตัวชี้วัด ได้แก่ วีซ่า, โครงสร้างพื้นฐานของการทำงานระยะไกล, ประสบการณ์ของผู้มาเยือน, ความปลอดภัย, การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ, การเข้าถึงที่อยู่อาศัย, ความคล่องตัว, ความสุข, อัตราภาษีเงินได้, อาหารและที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง

10 เมืองที่เหมาะกับทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย มีดังต่อไปนี้

อันดับ 1 บาร์เซโลนา, สเปน
อันดับ 2 ดูไบ, ยูเออี
อันดับ 3 ปราก, สาธารณรัฐเช็ก
อันดับ 4 มาดริด, สเปน
อันดับ 5 เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย
อันดับ 6 อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์
อันดับ 7 ลิสบอน, โปรตุเกส
อันดับ 8 ซิดนีย์, ออสเตรเลีย
อันดับ 9 กรานคานาเรีย, สเปน
อันดับ 10 เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์

จากการศึกษา “บาร์เซโลนา” ได้รับคะแนนสูงสุดในเรื่องราคาที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าซื้อได้, ความสามารถในการใช้จ่ายอาหาร และประสบการณ์ของผู้มาเยือน ที่อยู่เหนือปัจจัยอื่น ๆ ที่ศึกษา ส่วน “ดูไบ” เมืองทะเลทรายอันหรูหราเป็นเมืองเดียวจากทั้งหมด 85 แห่ง ที่เสนออัตราภาษีสำหรับผู้มีรายได้เป็นศูนย์ และยังได้คะแนนมากกว่า 95 ในด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และความคล่องตัว

ที่มา: cnbc