ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
วันนี้ Smart SME มีวิธีการที่ง่ายและเหนื่อยน้อยที่สุดในการเพิ่มกำไร คือ “การจัดการต้นทุน” ซึ่งเพื่อน ๆ ที่มีธุรกิจ กิจการ สามารถนำไปปฏิบัติเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยกลยุทธ์ ต่อไปนี้
จริง ๆ แล้วฝ่ายจัดซื้อมีความสำคัญในระดับกลยุทธ์ เพราะช่วยให้บริษัทมีต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง มีทางเลือกในการทำโปรโมชันราคาสินค้า รวมถึงทำให้มีสินค้าพร้อมขาย ไม่เสียโอกาสการขาย มีสภาพคล่องที่ดี และยังทำให้ได้ของที่มีคุณภาพดีกว่าคู่แข่ง
โดยฝ่ายจัดซื้อย่อมรู้ดีที่สุดในเรื่องข้อมูลของ Supplier (ซัพพลายเออร์) ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทหรือธุรกิจของคุณ ซึ่งการคัดสรร หรือปรับเปลี่ยน ซัพพลายเออร์ ให้เหมาะสมกับงบประมาณที่คุณต้องการ มีโอกาสทำให้คุณได้ของราคาที่ถูกกว่าเดิม หรือ คุณภาพดีกว่าเดิม หรือมีโอกาสได้ทั้งสองอย่าง
โดยถ้าฝ่ายจัดซื้อของเราคนไหนไม่อยากเปลี่ยนแหล่งซื้อ ต้องลองตรวจสอบว่า เขามีดีลลับบางอย่างกับ Supplier เดิมหรือไม่ ซึ่งก็จะเป็นการป้องกันการทุจริตในบริษัทและเป็นการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย และเมื่อเราลองเปลี่ยน Supplier เราอาจจะพบว่า กำไรเราเพิ่มขึ้นได้ทันที โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนสิ่งอื่นเลย
โดยเฉพาะการนับจำนวนสินค้าว่าครบถ้วนหรือไม่ ถ้าจำนวนสินค้าขาดหายไปโดยไม่รู้ว่าหายไปไหน คือ ต้นทุนที่เสียไปและหาคืนกลับมาได้ยาก และหากเจอสินค้าที่ขายไม่ออกเป็นจำนวนมาก ควรหาวิธีระบายสินค้าออกโดยด่วน ไม่เช่นนั้น จะเป็นต้นทุนจม และอาจทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องได้
คือ “การจัดการหลังบ้าน” นั่นเอง โดยไม่ว่าจะเป็นระบบเอกสาร , ค่าเช่าสำนักงาน, เงินเดือน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ เราค่อยปรับให้เป็นแบบออนไลน์ ทั้งการให้พนักงานทำงานที่บ้านแบบ Work from home โดยไม่กระทบกับการทำงาน จะทำให้ลดค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของพนักงาน
รวมถึงสวัสดิการบางอย่างที่ไม่จำเป็น ทำให้เราไม่ต้องลดจำนวนพนักงาน เพื่อตัดรายจ่ายส่วนนี้ ซึ่งอาจมีผลเสียมากกว่าผลดี นอกจากนี้ระบบเอกสารและการอนุมัติทั้งหลาย ควรลดขั้นตอนและอัพเกรดระบบให้เป็นออนไลน์ เช่น การใช้ Cloud Document ซึ่งช่วงแรกอาจจะดูยุ่งยาก แต่ถ้าทำเสร็จ เราจะลดได้ทั้งเงินและเวลาในการดำเนินงาน
แน่นอนว่า มีต้นทุนอีกรายการที่ทุกคนยอมจ่ายเพื่อให้ธุรกิจเติบโต นั่นก็คือ “งบการตลาด” ซึ่งกลยุทธ์ที่ควรนำมาปรับใช้เพื่อให้ต้นทุนนี้มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มจากการกลับมาทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ถ่องแท้ วางแผนและตั้งเป้าหมายที่มีการวัดผลอย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะใช้งบประมาณในการทำการตลาด
รวมถึงในยุคที่ใครต่างยิงโฆษณาออนไลน์ เราสามารถทดสอบโดยใช้เงินน้อย ๆ แต่ทำหลายๆ โพสต์ หลาย ๆ ช่องทางพร้อมกัน และวัดผลว่า อันไหนทำให้เกิดผลลัพธ์ได้ดีที่สุด