วิธีเริ่มต้นธุรกิจได้ทันที ! โดยไม่ต้องมีประสบการณ์


ก่อนจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ต้องศึกษาเรียนรู้ สะสมประสบการณ์จนเชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับการเริ่มต้นทำธุรกิจ ที่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ เพื่อให้รู้จักวิธีแก้ไขปัญหา อ่านเกมคู่แข่งออก ดูตลาดให้เป็น ช่วยลดความเสี่ยงที่ธุรกิจจะล้มเหลวลงไปได้

แต่วันนี้แอดฯ ขอฉีกกฎในตำรา ! เอาแนวคิดการทำธุรกิจที่ไม่ต้องพึ่งพา ไม่ต้องใช้ประสบการณ์ ก็เริ่มต้นธุรกิจได้ทันที มันมีด้วยหรือ ? จะเป็นไปได้ยังไง ลองไปดูกัน !

แนวคิดธุรกิจยุคใหม่ ไม่ต้องพึงประสบการณ์ เริ่มต้นทำได้โดย..

แสวงหาความต้องการของตลาด

การมองหาความต้องการของตลาดเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่พึงจะต้องกระทำ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับสิ่งประดิษฐ์และบริการ เพราะต้องเข้าใจในพื้นฐานของคนเราที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน และเชื่อเถอะว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการใดสามารถตอบสนองความต้องการได้ครบและครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภคได้

ดังนั้น สิ่งนี้คือ ช่องทาง และโอกาสทอง ของผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องจับตลาดความต้องการของผู้บริโภคที่มักเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ และทำผลิตภัณฑ์ออกมาตอบสนองความต้องการในส่วนดังกล่าวให้จงได้ ซึ่งแนวทางนี้ ไม่ต้องใช้ประสบการณ์เลยแม้แต่น้อย ที่ต้องใช้คือการทำ Research หรือวิจัยดี ๆ ต่างหาก

เลือกทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด

ผู้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหลายคนส่วนมากก็ไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจมาก่อน เพียงแต่พวกเขามีมุมมองอันชาญฉลาดและรู้ว่าธุรกิจอะไรควรลงไปแข่ง ธุรกิจอะไรควรเว้นวรรค หรือที่เรียกว่า “การประเมินโอกาสทางธุรกิจ” นั่นเอง

วิธีการประเมินธุรกิจเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือ การประเมินศักยภาพของธุรกิจของตนเองและกลุ่มตลาดเป้าหมาย ตัวอย่างคือ พิจารณาปัจจัยทางความพร้อม บุคลากร เงินทุน การบริหาร บวกกับแนวทางการเติบโตของกลุ่มเป้าหมายที่จะลงไปจับ คู่แข่ง ความต้องการหลักของผู้บริโภค

เมื่อนำปัจจัยทั้ง 2 ด้านมาวิเคราะห์ประกอบกันแล้วก็จะรู้เองว่า ธุรกิจดังกล่าวมีความน่าลงทุนขนาดไหนที่จะส่งผลิตภัณฑ์และบริการลงไปแข่งด้วย จึงจะเรียกว่า เป็นการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาดที่มีแต่ได้มากกว่าเสียนั่นเอง

อาศัยและพึ่งพาทรัพยากรฟรี

เพราะความที่ยังไม่มีประสบการณ์ จึงต้องอาศัยความทุ่มเทและการประหยัดมัธยัสถ์เป็นหลัก ด้วยการไปศึกษาหาข้อมูลและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจที่ให้บริการฟรี ในรูปแบบเครือข่ายอย่างในโลกสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น กูเกิ้ล , ทวิตเตอร์ (X) และเฟซบุ๊ก ที่มักให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจแบบฟรี ๆ ไม่เสียเงินเลยสักบาท

โดยบางครั้งอาจช่วยพิจารณาการวางแผนธุรกิจและช่วยกระจายข้อมูลในเรื่องการทำงานให้ด้วย ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือในลักษณะของมิตรภาพที่ไม่อาจตีราคาได้

นอกจากนี้ การศึกษาหาข้อมูลการทำธุรกิจจากห้องสมุดต่าง ๆ และการเข้าอบรมสัมมนาทางวิชาการตามมหาวิทยาลัยก็เป็นวิธีการช่วยเพิ่มความรู้ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง

 

ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเพื่อประหยัดงบทางธุรกิจ

ผู้เริ่มประกอบธุรกิจในช่วงแรกต่างรู้ดีว่า เงินทุนเป็นสิ่งมีค่ามากที่สุด การใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษหรือเรียกง่าย ๆ ว่าการประหยัดนั่นเอง

โดยหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยลดรายจ่ายได้เป็นอย่างดี คือ การใช้งานอินเทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจสามารถค้นหาจากทางโลกออนไลน์ได้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเขียนแผนทางธุรกิจ การดาวน์โหลดเอกสาร

และที่สำคัญ คือ สถิติต่าง ๆ ที่มีเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตก็มีอยู่เป็นจำนวนมากและฟรี ! อีกด้วย หากไปว่าจ้างบริษัทรับทำสำรวจจะเสียค่าใช้จ่ายแพงมาก และไม่คุ้มค่าสำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่ด้วย

 

ใช้จุดแข็งให้เกิดประโยชน์

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบการในการลดปัญหาที่เกิดจากการขาดประสบการณ์ทางธุรกิจ ก็คือ ใช้จุดแข็งเข้าต่อสู้ โดยผู้ประกอบการจะต้องสำรวจตนเองก่อนว่า มีจุดแข็งในเรื่องอะไรที่จะสามารถไปต่อกรกับคู่แข่งบนท้องตลาดได้

อาจเป็นราคาที่ถูกกว่า คุณสมบัติที่ดีกว่า ฯลฯ แล้วพัฒนาเครื่องมือดังกล่าวนำมาใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับคู่แข่งที่มักอ้างเรื่องประสบการณ์เป็นจุดเด่น

ซึ่งการใช้จุดแข็งของธุรกิจเข้ามาต่อสู้นี้ต้องใช้ทักษะส่วนตัวของผู้ประกอบการค่อนข้างมากในการบริหารจัดการให้ตรงกับยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้

 

“ประสบการณ์” อันที่จริงมีส่วนสำคัญและจำเป็นที่ผู้ประกอบการควรมี แต่หากไม่มีประสบการณ์ แต่มันเป็น “ไฟต์บังคับ” เปรียบเหมือนมวยที่คุณจะต้องขึ้นชกแล้วนั้น.. จงใช้ กึ๋น , จังหวะ, โอกาส และสัญชาตญาณ ในการสู้ศึกสมรภูมินั้นให้เต็มที่และดีที่สุด

และแม้ว่า หากคุณล้มเหลว หรือแพ้ในครั้งนั้น นั่นแหละ คือคุณได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ +1 เรียบร้อยแล้ว