การดำเนินธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว นอกจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงบุคลากรในองค์กรแล้ว ต้องยอมรับว่า “ผู้บริหารองค์กร” เป็นศูนย์รวมแห่งองคาพยพที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเติบโตได้ตามเป้าหมาย
สถาบันยุทธศาสตร์ธุรกิจเชิงบวก (iSAB) ก่อตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) มหาวิทยาลัยนเรศวร และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นความสำคัญของการพัฒนาผู้บริหารองค์กร ได้เปิดหลักสูตร นักบริหารยุทธศาสตร์ธุรกิจเชิงบวก หรือ The MASTER (เดอะ มาสเตอร์) ซึ่งความโดดเด่นของหลักสูตรอยู่ที่เนื้อหาที่มีการสอดแทรกแนวคิดการทำธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง รวมไปถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการบริหารองค์กร ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีวิทยากรชั้นนำระดับประเทศหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ การบริหารงานทางธุรกิจแบบเจาะลึก กลยุทธ์การบริหารธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงการทำธุรกิจโดยยึดหลักคิดเชิงบวกเพื่อความยั่งยืน เพื่อให้เกิดความหลากหลายทางความรู้ ให้ผู้เข้าอบรมที่เรียกว่า “ผู้ใฝ่รู้” ได้นำไปปรับใช้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับนักธุรกิจในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบัน หลักสูตร THE MASTER เดินทางมาถึงรุ่นที่ 8 แล้ว และมี “ผู้ใฝ่รู้” เข้าร่วมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 136 คน โดยในพิธีเปิดหลักสูตร “นักบริหารยุทธศาสตร์ธุรกิจเชิงบวก หรือ The MASTER (เดอะ มาสเตอร์) รุ่นที่ 8” ประจำปี2566 ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการบริหารสถาบัน ฯ นำโดย นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานสถาบัน ฯ นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานหลักสูตร รศ.ดร. ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร รองประธานสถาบัน ฯ รศ.ดร. ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษา ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานหลักสูตร THE MASTER กล่าวว่า “ผู้นำเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ ผู้นำนั้นไม่ได้เกิดจากความอาวุโส ต้องมีการเรียนรู้กลยุทธ์เพื่อให้องค์กรเติบโตก้าวหน้า และต้องมีคุณธรรมในการดำเนินธุรกิจ การคิดเชิงบวกเพื่อให้เรามีมุมมองและแง่คิดที่ดีมีความสร้างสรรค์ทำให้เราสามารถค้นพบสิ่งต่าง ๆ และมีพลังต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตเชื่อว่าทุกคนมีความเป็น The Master ในตนเองอยู่แล้ว การเข้ามาเป็นผู้ใฝ่รู้ ได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีจากวิทยากร ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไปสู่มุมมองใหม่ และเกิดมิตรภาพที่ดี ฝึกความเป็น The Master ให้กับตนเอง สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตต่อไป”
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวปาฐกถาพิเศษจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ในหัวข้อ “ผู้นำกับคุณธรรมแห่งยุคสมัย” “เรื่องของคุณธรรมเป็นเรื่องที่ไม่ขึ้นอยู่กับยุคสมัย แต่เป็นสัจธรรมและความจริงในทุกเวลาทุกสถานการณ์ คุณธรรมของแต่ละคนนั้นมีมุมมองและขอบเขตที่แตกต่างกันไป หากถามว่าในยุคสมัยนี้อะไรที่เป็นคุณธรรมที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้นำที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในองค์กรใดก็ตามจะต้องมีคุณธรรมอย่างไร คุณธรรมนั้นเป็นที่สุดของการเป็นผู้นำที่ดี โดย 4 คำนิยามที่ผู้นำทุกระดับควรต้องมี และสอดคล้องกับชื่อของ ISAB ได้แก่ (Integrity) ความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ต้องมาอันดับหนึ่ง และมากกว่าความซื่อสัตย์ นั่นคือ ความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น ซื่อตรงต่อตนเอง มีความสม่ำเสมอต่อสิ่งที่ทำ และผู้ที่เป็นบุคคลสาธารณะต้องมีสิ่งนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นำมาซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจและความศรัทธา (Sufficiency) ความพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เราได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 9 ภายใต้ 3 แกนหลักสำคัญ ความพอประมาณ การมีเหตุผล จะทำสิ่งใดก็ตามต้องอาศัยความรู้คู่คุณธรรม (Adaptability) ความยืดหยุ่น การปรับตัว การเปิดใจ การตอบสนอง ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเก่งได้โดยไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติม ผู้นำต้องหมั่นเรียนรู้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้สามารถปรับตัวตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ (Benevolence) ความเมตตากรุณาเห็นแก่ผู้อื่น ความสงสารเข้าใจความเดือดร้อนของผู้อื่น มีความรู้สึกทุกข์ไปด้วย แสวงหาแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนเหล่านั้น แต่จะบริหารจัดการอย่างไรเพื่อนำพาองค์กรและประเทศเดินไปข้างหน้า”
คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ ผู้ดำเนินกิจการเดินเรือ สุภัทรากรุ๊ป (Supatra Group) กล่าวว่า “การได้เป็นหนึ่งในผู้ใฝ่รู้ที่เข้าร่วมอบรม หลักสูตร The Master ในรุ่นที่ 8 มาจากความประทับใจในการบริหารองค์กรของผู้บริหารสหพัฒน์ทุกคน ทำให้ทุกวันนี้เป็นหนึ่งในองค์กรที่แข็งแรงและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นต้นแบบให้กับผู้บริหารหลายองค์กร ได้นำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับองค์กรของตนเอง และจะนำมุมมองใหม่ที่ได้จากการเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจเดินเรือที่มีพนักงานจำนวนมาก เพื่อการเป็นองค์กรที่แข็งแรงและร่วมสร้างสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานต่อไป”
ดร.บุญชัย โต๊ะสุวรรณวณิช ผู้อำนวยการภาคระดับสูง ภาคนำทอง 273 บริษัท เอไอเอ จำกัด กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตรนี้ มองว่าจะได้รับประโยชน์จากสหพัฒน์ซึ่งเป็นองค์กรที่มีคุณภาพ อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้ มีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์บริหารธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์และยุติธรรม ส่งต่อความเป็นเลิศจากรุ่นสู่รุ่น โดยจะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการบริหารองค์กรเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโต”
พลตำรวจเอก สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “หลักสูตร The Master มีความน่าสนใจ และไม่ว่าจะเป็นผู้นำในองค์กรภาครัฐหรือองค์กรเอกชน สิ่งที่ต้องมีเหมือนกันคือ ความเก่ง ฉลาด และมีความรับผิดชอบ การเข้ามาเป็นผู้ใฝ่รู้คาดว่าจะได้รับมุมมองและแนวคิดจากองค์กรเอกชนที่เป็นประโยชน์ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการบริหารงานราชการได้ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือประเทศชาติที่สงบเรียบร้อย”
นับเป็นหลักสูตรแรกของเมืองไทยที่มุ่งสร้างผู้บริหารองค์กร เจ้าของธุรกิจ และทายาทผู้ประกอบการ ให้มีความเป็นผู้นำ มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจด้วยหลักคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งถือเป็นที่สุดของหัวใจนักธุรกิจ