MIXUE ไอศกรีมแดนมังกร มูลค่าแสนล้าน เมื่อของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป


นาทีนี้หนึ่งแบรนด์เครื่องดื่ม และของหวานที่มาแรง เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยคงจะหนีไม่พ้น MIXUE แบรนด์ไอศกรีม-เครื่องดื่มสัญชาติจีน ที่เข้ามาครองใจผู้บริโภค ตลอดจนเปิดสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

จุดเริ่มต้นของ MIXUE มีความน่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะแบรนด์ได้รับความนิยมจากปัญหาที่มีอยู่ตามท้องตลาดในสินค้าที่ขายอยู่ นำมาเป็นบริการที่ตอบโจทย์ในที่สุด เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค

MIXUE ก่อตั้งโดย Zhang Hongchao ในปี 1997 ด้วยการขอยืมเงินจากครอบครัวมาเปิดธุรกิจ เดิมทีนั้นเจ้าตัวเปิดร้านขายน้ำแข็งไสก่อน ต่อมาในปี 2006 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของจุดเริ่มต้นของ MIXUE เมื่อเจ้าตัวเล็งเห็นโอกาสในตอนนั้นที่ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีน แต่ติดตรงที่ว่ามักจะมีราคาสูง

ดังนั้น จะไปยากอะไร เมื่อท้องตลาดขายในราคาที่สูง MIXUE จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ผู้บริโภคได้กินไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่มีราคาถูก แต่เต็มไปด้วยคุณภาพจากการศึกษา ปรับปรุงสูตรจนได้รสชาติคงที่ออกมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าในที่สุด และสิ่งที่ Zhang ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการควบคุมการผลิต และต้นทุนวัตถุดิบอย่างรอบคอบ จึงทำให้สามารถกำหนดราคาต่ำกว่าคู่แข่งได้ โดย MIXUE ขายไอศกรีมในราคา 2 หยวน ส่วนคู่แข่งขายในราคา 10 หยวน

 

 

แนวคิดของพวกเขาที่ต้องการขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟราคาถูกกลายเป็นได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน สร้างยอดขายถล่มทลายจนร้านติดอันดับร้านขายดี มีการพูดกันแบบปากต่อปากเป็นกระแสทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ MIXUE มากยิ่งขึ้น

เมื่อโมเดลธุรกิจนี้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม Zhang จึงต่อยอดไปสู่เมนูอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชานม, สมูทตี้, น้ำมะนาว ที่ยังคงแนวคิดเหมือนเดิม คือราคาไม่แพง ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เมื่อธุรกิจเริ่มไปด้วยดี อยู่ตัวด้วยระบบต่อมาจึงมีการขายแฟรนไชส์ ซึ่งธุรกิจติดจรวด เมื่อ MIXUE ขยายสาขาอย่างรวดเร็วในจีน ปัจจุบันมีสาขาในจีนมากกว่า 25,000 สาขา รวมถึงขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ ที่มีมากว่า 3,000 สาขา

เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ MIXUE เข้ามาเปิดตลาดในปี 2565 โดยเปิดสาขาแรกในละแวกซอยรามคำแหง 57 ซึ่งทางแบรนด์มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาในไทยให้ได้ 2,000 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี รวมถึงจัดหาวัตถุดิบชา-ผลไม้ท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตร และสร้างโรงงานแปรรูป และคลังสินค้าเพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับ MIXUE

 

 

นอกจากนี้ MIXUE ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจได้ลงทุน โดยค่าแฟรนไชส์จะอยู่ที่ 50,000 บาท/ปี, ค่าอุปกรณ์ วัตถุดิบ และอื่นๆ คิดเป็นเงินราว 885,000 บาท ตลอดจนค่าติดตั้ง ดังนั้นถ้ารวมทั้งหมดต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

 

 

หากพูดถึงจุดเด่นของ MIXUE แล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาที่เมนูของพวกเขามีราคาเริ่มต้น 15-50 บาท มีเมนูที่หลากหลายทั้ง ไอศกรีม, ชานม, น้ำมะนาว, สมูทตี้, ชาพีช แน่นอนว่าด้วยราคาไม่สูงเกินเอื้อมจึงทำให้เจาะกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย ทั้ง นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่จะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ รวมถึงรูปแบบร้านที่ใช้สีแดงทำให้เป็นจุดเด่นมองเห็นได้ในระยะไกล สร้างความน่าสนใจให้ลูกค้าเข้าไปซื้อเช่นกัน

MIXUE จึงเป็นแบรนด์ของหวานที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย หากดูกลยุทธ์ธุรกิจของแบรนด์ในเรื่องราคาที่สามารถมัดใจผู้บริโภคได้อย่างอยู่หมัด