หากจะนิยามอิสรภาพทางการเงิน แต่ละคนจะให้ความหมายตามมุมมองที่แตกต่างกันออกไป หากพูดถึงโดยทั่วไปแล้ว อิสรภาพทางการเงิน คือการมีทรัพยากรทางการเงินสามารถใช้ชีวิตตามที่คุณต้องการโดยไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีเงินพอใช้หรือไม่
อีกทั้ง คนสมัยนี้มีความคิดที่อยากจะวางแผนชีวิตให้เกษียณก่อนกำหนด แบบไม่ต้องทำงานอยู่ตลอดไป จะทำต่อเมื่ออยากทำจริง ๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถไปถึงเป้าหมายนี้ได้เหมือนกันหมด เพราะทุกย่างก้าวล้วนผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี
เว็บไซต์ Business Insider ได้ไปสัมภาษณ์บุคคล และคู่รักที่เก็บเงินได้มากพอที่จะลาออก หรือลดความถี่ในการทำงานประจำ ให้ได้ใช้ชีวิตตามความต้องการอย่างแท้จริง พวกเขาเหล่านี้ออกแบบวิธีจัดการเรื่องเงินอย่างไร มาดูกัน
เริ่มจาก Todd Baldwin ที่มีรายได้มากกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายอสังหาริมทรัพย์, ข้อตกลงด้านค้าส่ง และรายได้จากค่าเช่า โดยเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นวิธีสร้างความมั่งคั่งอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังลงทุนนตลาดหุ้นอีกด้วย
หากคุณต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน และเกษียณก่อนกำหนด Todd แนะนำว่าในช่วงอายุ 20 ปี ผมต้องเร่งรีบ ไม่ปาร์ตี้ ไม่ไปเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้เจอเพื่อน แต่ใช้เวลาที่จะสร้างรายได้ โดยตอนอายุ 25 ปี ผมมีความมั่งคั่ง 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันอายุ 29 ผมออกจากงานประจำแบบ 9-to-5 และมีเงินเพียงพอที่จะเกษียณในวันพรุ่งนี้แบบไม่ต้องทำงานเลยสักวัน
คนถัดมา Brennan Schlagbaum เจ้าของ Budgetdog บริษัทสอนเรื่องทางการเงินที่เริ่มต้นจากอินสตาแกรม จนเป็นช่องทางรายได้เสริมเพียงพอที่ช่วยให้เขา และภรรยาปลดหนี้ได้ในระยะเวลา 5 ปี ในที่สุดรายได้ของ Budgetgog ก็แซงหน้างานประจำที่ทำอยู่ในตำแหน่งนักบัญชี
หลังจากนั้น เขาได้ลาออกจากงาน พร้อมเดินหน้าโฟกัสกับบริษัทแบบเต็มตัว ตอนนี้ Brennan เป็นเจ้านายของตัวเอง และสามารถจัดการตารางงาน พร้อมอยู่ร่วมกับลูกสาวได้อย่างสบายใจ
ต่อมา Ali Lupo สามารถลดขนาดการทำงานเป็นนักสังคมสังเคราะห์แบบเต็มเวลาเปลี่ยนเป็นทำงาน 2 วันต่อสัปดาห์ได้ โดยเธอบอกว่าการทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์มีความคุ้มค่า แต่ท้าทาย และไม่คิดว่าจะออกจากงานแบบเต็มเวลาเร็วขนาดนี้
Ali และสามีมีภาระที่จ้องชำระหนี้หกหลัก และวางแผนเกษียณก่อนอายุ 40 ปี โดยทั้งคู่ประเมินแล้วว่ายังคงทำเงินได้ตามเป้าหมาย หากทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย โดยเธอได้งานพาร์ทไทม์เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่มีสวัสดิการครบถ้วน พร้อมใช้วันอื่น ๆ ของสัปดาห์สร้างแบรนด์ของตนควบคู่กันไป
ขณะเดียวกัน Josh ประกอบอาชีพอิสระตั้งแต่ปี 2018 และให้คำปรึกษาด้านอาชีพสำหรับคนพิการ โดยเขาเริ่มลดขนาดขอบเขตงานลง รวมถึงทำงานประมาณ 30 ชั่วโมง ซึ่งทั้งคู่สามารถออกแบบชีวิตที่ต้องการได้ ทั้งการออม และการหารายได้
จะเห็นได้ว่าตัวอย่างที่ยกมานั้น เส้นทางที่จะเดินไปสู่อิสรภาพทางการเงินของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น การทำงานอย่างหนัก ทำหลายอย่างเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม, การไม่ได้มีแค่อาชีพ แต่มีอาชีพเสริมที่ทำเงินได้ดีกว่า ตลอดจนการใช้สื่อสังคมมีเดียให้เป็นประโยชน์จนสร้างธุรกิจขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม การเกษียณอายุเร็วถือเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องอยู่ในความพอดีกับการใช้ชีวิตให้มีความสุขกับปัจจุบัน บางครั้งการเกษียณช้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด แต่สนุกไปกับการใช้ชีวิต หรือสิ่งที่ทำอยู่ ค่อยเป็นค่อยไปก็เป็นเรื่องที่ดีไม่แพ้กัน
ที่มา: businessinsider