Easy E-Receipt คืออะไร? ใช้ซื้อของแบบไหนถึงนำไปหักลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท


สำหรับคนเสียภาษีบุคคลธรรมดาในแต่ละปีจะมองหาการลดหย่อนภาษีในรูปแบบต่าง ๆ ที่ทางภาครัฐกำหนดขึ้นมา โดยหนึ่งในมาตรการจูงใจที่ดึงดูดผู้เสียภาษีได้เป็นอย่างดี นั่นคือการซื้อสินค้า อย่างล่าสุดกับมาตรการที่มีชื่อเรียกว่า Easy E-Receipt

จากเดิม Easy E-Receipt คือโครงการช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับประชาชนที่ซื้อสินค้าจากร้านค้า สามารถนำใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 50,000 บาท โดยโครงการเริ่มแล้ววันนี้-15 กุมภาพันธ์ 2567 อีกด้านหนึ่งก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการจับจ่ายใช้สอยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ด้านสินค้าหรือบริการที่สามารถซื้อ และนำมาลดหย่อนภาษี ได้แก่ สินค้าที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารในรูปแบบปกติ และในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-book) รวมถึงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชน

ส่วนสินค้า และบริการที่ยกเว้น ไม่สามารถซื้อได้ ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ ค่าน้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ และเรือ ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าสมาชิกต่าง ๆ ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

ตัวอย่างการลดหย่อนภาษี

– อัตราเสียภาษี 35% กรณีใช้สอย 50,000 บาท ได้เงินคืน 17,500 บาท
– อัตราเสียภาษี 20% กรณีใช้สอย 50,000 บาท ได้เงินคืน 10,000 บาท
– อัตราเสียภาษี 5% กรณีใช้สอย 50,000 บาท ได้เงินคืน 2,500 บาท

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนจะเข้าร่วมมาตรการนี้เวลาไปซื้อของ หรือใช้บริการต้องสังเกตให้ดีว่าร้านค้านั้นมีสัญลักษณ์ EASY E-Receipt หรือไม่ และทางร้านต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice&e-Receipt) ของกรมสรรพากร

ที่มา: กรมสรรพากร

เรื่องที่เกี่ยวข้อง