กรมพัฒนาธุรกิจฯ ก้าวสู่ปีที่ 101 พร้อมให้บริการภาคธุรกิจและประชาชน..แบบเกินร้อย


ก้าวสู่ปีที่ 101 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้ายกระดับการให้บริการทุกด้านตอบสนองความต้องการภาคธุรกิจและประชาชนแบบเกินร้อย ภายใต้แนวคิด ‘ก้าวที่ 101 ขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน’ ยืนยัน!! กรมพัฒนาธุรกิจฯ พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บรรจุคอร์สเติมเต็มความรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบอัดแน่นตลอดทั้งปี เสริมแกร่งผู้ประกอบการให้มีความทันสมัยพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ผนวกการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้เกิดการสนับสนุนเกื้อกูลระหว่างกัน เพิ่มพันธมิตรการค้าจับมือร่วมลงทุนต่อยอดธุรกิจ ไฮไลท์ 101!! กดปุ่มเปิดระบบให้บริการหนังสือรับรองนิติบุคคลทางออนไลน์ DBD e-Service แบบเรียลไทม์ ‘ขอปุ๊บได้ปั๊บ’ ทันใจผู้ประกอบการนำไปใช้งานได้ทันที ขจัดปัญหาการรอเอกสาร และไม่ต้องเดินทางมาติดต่อหน่วยงานราชการให้เสียเวลา เหมาะกับยุคดิจิทัลที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน ตรวจสอบได้ มั่นใจ!! ปี 2567 จะเป็นปีที่ดีสำหรับทุกภาคส่วน สัญญาณเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน สัญญาว่า..กรมพัฒนาธุรกิจฯ จะมอบสิ่งดีดีและสานต่อความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจ พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเต็มที่ และจะปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต บนพื้นฐานแห่งความถูกต้องและเท่าเทียม

 

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “วันที่ 16 มกราคม 2567 เป็นวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 101 ปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นับเป็นปีแรกและก้าวแรกต่อจากปีที่หนึ่งร้อย ที่ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจฯ ทุกคน ต้องเร่งยกระดับการให้บริการทุกด้านเพื่อภาคธุรกิจและประชาชนอย่างเต็มที่ จากการให้บริการที่ดีอยู่แล้วต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นแบบเกินร้อย สร้างสรรค์การบริการที่สอดรับกับสังคมดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างตรงจุด โดยเฉพาะการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับทุกการปฏิบัติราชการ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ทรงประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว ก้าวสู่เป้าหมายการเป็น ‘องค์กรภาครัฐชั้นนำด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2570 พร้อมสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม’ โดยทุกการพัฒนาจะเน้นตอบโจทย์ความต้องการทุกภาคส่วนเป็นหลัก และภาคธุรกิจ/ประชาชนต้องได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการบริการของกรมฯ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้กำหนดวิถีปฏิบัติปีที่ 101 ภายใต้แนวคิด ‘ก้าวที่ 101 ขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน’ ที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจทุกขนาดทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่กรมฯ พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้ยืนหยัดบนเวทีธุรกิจได้ด้วยความมั่นคง เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มสัดส่วน GDP เอสเอ็มอีของไทย จาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับกระทรวงพาณิชย์และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่มั่นใจว่าหากทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันและบูรณาการการทำงานจนเกิดการเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายความร่วมมือขนาดใหญ่ เกิดพันธมิตรทางการค้าที่มีความแข็งแกร่ง มีการสนับสนุนเกื้อกูลระหว่างกัน เป้าหมายที่กำหนดไว้ข้างต้นจะสามารถบรรลุตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น ปีที่ 101 จึงเป็นปีแห่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

 

 

อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ปี 2567 กรมฯ ได้สร้างสรรค์หลักสูตรและบูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาคการศึกษาและภาคธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเสริมสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจมาร่วมออกแบบหลักสูตรต่างๆ ที่มีความทันสมัย ช่วยเติมเต็มองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจให้พร้อมปรับตัวและรับมือกับทุกสถานการณ์ด้วยความมั่นใจ เป็นการอบรมผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ตลอดทั้งปี โดยช่องทางออนไลน์อบรม/เรียนรู้ผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์https://dbdacademy.dbd.go.th ที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่มีค่าใช้จ่าย มีหลักสูตรที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นประกอบธุรกิจไปจนถึงธุรกิจมืออาชีพ ประกอบด้วย 4 หลักสูตร 34 วิชา เมื่อเรียบจบแต่ละหลักสูตร ผู้เรียนสามารถพิมพ์หนังสือรับรองรายวิชาจากระบบได้ทันที หรือยื่นนับชั่วโมง CPD ได้ในหลักสูตรบัญชี นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรการอบรมผ่านระบบออฟไลน์ที่หลากหลาย กว่า 30 หลักสูตร และเหมาะสมกับผู้ประกอบการทุกขนาดทุกประเภท โดยสามารถดูรายละเอียดการอบรมฯ เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th

 

 

สำหรับไฮไลท์ปีที่ 101 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดระบบให้บริการหนังสือรับรองนิติบุคคลทางออนไลน์ DBD e-Service แบบเรียลไทม์ ตลอดทั้งวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ชนิด ‘ทันใจ’ ‘ขอปุ๊บได้ปั๊บ’ เหมาะกับยุคดิจิทัลที่เน้นความคล่องตัว และข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน ตรวจสอบได้ เปรียบเสมือนการ ‘ติดสปีด’ ให้ดำเนินธุรกิจด้วยความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้ กรมฯ ได้ทดลองเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะชื่นชอบระบบที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว ทันใจผู้ประกอบการสามารถนำไฟล์หนังสือรับรองฯ ไปใช้งานได้ทันที ขจัดปัญหาการรอเอกสาร และไม่ต้องเดินทางมาติดต่อหน่วยงานราชการให้เสียเวลา ทำให้ภาคธุรกิจนำไปใช้ทำธุรกรรมได้ทันสถานการณ์ ระหว่างนี้ กรมฯ ได้นำข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นผู้ใช้บริการมาปรับปรุงพัฒนาระบบให้บริการหนังสือรับรองฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันนี้ (16 มกราคม 2567) โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนใช้บริการขอสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลทางออนไลน์ DBD e-Service โดยเข้าไปที่ www.dbd.go.th >> บริการออนไลน์ >> ขอหนังสือรับรอง/คัดสำเนา >> กรอกรายละเอียด >> ชำระเงิน >> ดาวน์โหลดหนังสือรับรองไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถนำไฟล์หนังสือรับรองไปใช้งานได้ทันที ทำให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามเจตจำนงการให้บริการภาครัฐที่ดี มีประสิทธิภาพ และเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ/ประชาชนอย่างเต็มที่

 

 

ที่ผ่านมา กรมฯ ได้มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การให้บริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ หรือ End to end Process เพื่อบริการที่ถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย * ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ซึ่งกรมฯ ได้ปรับให้เป็นบริการดิจิทัลอย่างครบวงจร ตั้งแต่การยืนยันตัวตนจนถึงการออกหนังสือรับรองและใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนในรูปแบบไฟล์ * ระบบการนำส่งงบการเงิน (DBD e-Filing) ปัจจุบันมีผู้นำส่งงบการเงินผ่านระบบกว่าร้อยละ 99 ของผู้มีหน้าที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด * ระบบการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration For Public Company Limited : e-PCL) เฟส 2 เดินหน้าให้บริการเต็มรูปแบบ 100% * ระบบจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Secured) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่มีความสะดวก รวดเร็ว และใช้งานได้ง่ายขึ้น * พัฒนาการยื่นคำขอจดทะเบียนนิติบุคคลในรูปแบบ e-Form เพื่อการบันทึกข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ที่ง่าย สะดวก ลดการกรอกแบบฟอร์มในรูปแบบกระดาษ * คลังข้อมูลธุรกิจ หรือ DBD Data Warehouse+ ของกรมฯ ซึ่งเป็นคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจไทย และที่สำคัญที่สุดที่กรมฯ เน้นย้ำ คือ ระบบบริการทั้งหมดนี้ ต้องอยู่ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานที่มีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก

 

 

มั่นใจว่าปี 2567 นอกจากจะเป็นก้าวที่แกร่ง 101 ปีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ยังจะเป็นปีที่ดีสำหรับทุกภาคส่วน เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้สัญญาว่าจะมอบสิ่งดีดีและสานต่อความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจะปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต บนพื้นฐานแห่งความถูกต้องและเท่าเทียม” อธิบดีกล่าวทิ้งท้าย