บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 67 ว่าได้ให้บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ S.F. Holding Co., Ltd ครอบงำกิจการของบริษัท (แบบ 247-3)

การดำเนินงานที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จะเข้าซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 1,275,202,145 หุ้น คิดเป็น 73.18% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท และเมื่อมาคำนวณราคาต่อหุ้น ซึ่งอยู่ที่ 5.50 บาท ทำให้มีราคาที่เสนอซื้ออยู่ที่ 7,013 ล้านบาท

แล้ว S.F. Holding Co., Ltd ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นใครมาจากไหน เรามาหาคำตอบกัน

S.F. Holding Co., Ltd ถือว่ามีดีกรีไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศจีนร่วมกับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Alibaba และ JD.com ทั้งพัสดุในรูปแบบอี-คอมเมิร์ซ การขนส่งทางเรือ การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ การขนส่งด่วนระหว่างเมือง และระหว่างประเทศ ตลอดเรื่องการผลิต การจัดซื้อ การทำการตลาด และการกระจายสินค้า

ปัจจุบันธุรกิจมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมของธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย จะพบกับผู้ให้บริการมากหน้าหลายตา แน่นอนว่าการแข่งขันย่อมสูงตาม แต่ผลประกอบการดูเหมือนจะสวนทางกับสิ่งที่ลงทุนไป ดูได้จากกรณีของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ที่ผลประกอบการในช่วง 2 ปี หลังติดลบ

– ปี 2565 รายได้รวม 17,145 ล้านบาท ขาดทุน -2,830 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้รวม (9 เดือนแรก) 8,995 ล้านบาท ขาดทุน -2,725 ล้านบาท

วิเคราะห์ได้ว่าการที่ S.F. Holding Co., Ltd เข้ามาซื้อหุ้นในครั้งนี้ คงมองเห็นโอกาสที่รออยู่ โดยบริษัทมีจุดแข็งเรื่องการบริหารขนส่งอยู่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะนำเอาระบบที่ทำอยู่ในจีนเข้ามาวางโครงสร้างให้กับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างศักยภาพให้ธุรกิจดียิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าสินค้าจากจีนหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นก็จะเป็นข้อดีอีกเรื่องที่ธุรกิจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดส่งในเรื่องนี้