จะสร้างไอเดียอย่างไร เมื่อคุณไม่มีหัวทางด้านนี้เลย กับวิธีทำตัวให้เป็นคนครีเอทีฟ


ความคิดสร้างสรรค์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะเรื่องของการทำงาน การทำธุรกิจ หากใครมีหัวในเรื่องนี้ย่อมสร้างความได้เปรียบ เพราะจะทำให้สิ่งที่ทำอยู่มีความแปลกใหม่ เกิดความน่าสนใจ ผลลัพธ์ที่ตามมาเกิดความดึงดูดให้ผู้คนสนใจ ติดตามเรื่องนั้น ๆ

แต่หากเราไม่มีหัวทางด้านนี้เลย จะกลายเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้หรือไม่ คำตอบเรื่องนี้บอกได้เลยว่า “ทำได้” หากรู้วิธีการฝึกฝน และทำเป็นประจำจนเกิดความเคยชิน

สำหรับวิธีฝึกเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างรวดเร็ว จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.เขียนบันทึกในช่วงเช้า

แทบทุกวันเรามักหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ต้องทำ โฟกัสไปกับวิธีการว่าจะทำอย่างให้สิ่งที่ทำลุล่วง สำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งนำมาสู่ความเครียด สูญเสียความเป็นตัวตน ไม่เป็นตัวของตัวเอง คิดอะไรก็ไม่ออก อย่างไรก็ตาม วิธีที่จะทำให้ตัวเรามีสมาธิได้ คือการเขียนบันทึก

ตามรายงานการศึกษาของศาสตราจารย์ Teresa Amabile ของ Harvard Business School พบว่าการจดบันทึกเป็นประจำช่วยให้คุณค้นพบมุมมองของตัวเองอีกครั้ง และมีประสิทธิผลมากขึ้น ดังนั้น ก่อนที่คุณจะกระโดดเข้าไปอยู่ในโลกการทำงาน ให้เผื่อเวลาสัก 10 นาที แล้วหยิบสมุดบันทึกมาเขียนเกี่ยวกับความคิดส่วนตัวของคุณซึ่งไม่จำเป็นต้องสมเหตุสมผล

การเขียนแบบอิสระจะช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณไหลลื่น ขณะเดียวกันก็บังคับให้คุณใส่ความคิดลงในข้อความที่เขียนไปด้วย โดยอาจจะกำหนดประเด็นขึ้นมา เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันกำลังดิ้นรนกับเรื่อง…., ถ้ามีเวลามากขึ้นในวันนี้ ฉันจะใช้ไปกับ…., วันนี้ฉันจะหลีกเลี่ยงกับเรื่อง….

2.เรียนหลักสูตรความคิดสร้างสรรค์

หากคุณเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นแนะนำ การลงเรียนหลักสูตรที่สร้างสรรค์อาจเป็นวิธีที่ถูกต้องที่จะดึงความคิดสร้างสรรค์ของคุณออกมา โดยหลักสูตรประเภทนี้มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเขียนสร้างสรรค์, การถ่ายภาพและวิดีโอ, ดนตรี, ศิลปะ และการออกแบบ

หลักสูตรที่เรียน ไม่ว่าจะหลักสูตรอะไร คุณจะได้สัมผัสกับวิธีคิด และแนวทางการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้กับงานที่ทำอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณค้นพบจุดแข็ง และแก้ไขจุดอ่อนที่มีอยู่ได้

3.ระดมความคิดขณะออกกำลังกาย

หากมีความรู้สึกว่าคุณกำลังใช้สมองอย่างหนัก และยังคงพบกับความว่างเปล่า ลองเปลี่ยนมาขยับตัวออกกำลังกายสัก 30 นาที โดยงานวิจัย ชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายสามารถเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจบอกว่าการออกกำลังกายระดับปานกลางมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของผู้เข้าร่วมในการคิดต่าง ๆ

ไม่เพียงเท่านั้น การออกกำลังกายเป็นประจำเป็นการฝึกการคิดเชิงรับรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของคุณในทางที่ดีต่อสุขภาพ

4.เดินทางไปที่อื่น ๆ

เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมอง สิ่งสำคัญคือการทำให้จิตใจถูกกระตุ้นด้วยทิวทัศน์, เสียง, รส, กลิ่น และประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเองได้เจอมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้ประสาทเฉียบคม จนเกิดความคิดรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นทางปัญญา การบูรณาการทางความคิด

5.ถ่ายทอดความเป็นเด็ก

เด็กถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ตามธรรมชาติ เพียงเพราะพวกเขารู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของตนไม่มีขีดจำกัด หากคุณได้ถ่ายทอดความเป็นเด็กออกมา การทำงานของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะกังวล หรือประหม่าว่างานจะออกมาไม่ดีพอ แต่เต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง

ที่สำคัญที่สุด คุณต้องมีสนุกกับงานที่ทำ เด็กมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือการผจญภัย และทำให้ทุกช่วงเวลาเกิดประโยชน์สูงสุด แทนที่จะมานั่งกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์

6.ทำงาน coworking space

การศึกษาของมหาวิทยาลัย Michigan พบว่าการทำงานใน coworking space จะช่วยสร้างโอกาสที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นั่นคือความยืดหยุ่น และความอิสระ ซึ่งมาจากบรรยากาศของสถานที่ แน่นอนว่าความยืดหยุ่นในพื้นที่ส่วนบุคคลจะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

สอดคล้องกับงานวิจัยบางชิ้นที่บอกว่าความสามารถในการปรับแต่งพื้นที่ทำงานของคุณจะทำให้มีประสิทธิผลในระดับสูงขึ้น ตลอดจนการใกล้ชิดกับผู้อื่นหมายถึงโอกาสในการทำงานร่วมกันซึ่งเป็นตัวเร่งทำให้เกิดนวัตกรรมอีกด้วย

แม้ว่าเราจะไม่เก่งเรื่องนี้ แต่ถ้าหากพยายาม อยากพัฒนาตนเอง แค่นี้ก็เป็นไอเดียจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์แล้ว

ที่มา: blog.hubspot