“บุญถาวร” ธุรกิจขายของตกแต่งบ้าน ที่วันนี้ขอคิดใหญ่เดินเข้าไปในตลาดหุ้น


“บุญถาวร” ธุรกิจขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรเตรียมเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ จากจุดเริ่มต้นที่มองเห็นโอกาสสินค้าของตกแต่งบ้านที่ยังมีน้อยสู่ธุรกิจที่มีรายได้หลักหมื่นล้านบาทในแต่ละปี

เรื่องราวของ “บุญถาวร” เป็นอย่างไร กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง Smartsme จะเล่าให้ฟัง

ในปี พ.ศ.2520 คุณวิวัฒน์ ทยานุวัฒน์ ซึ่งมีวิชาชีพทางด้านวิศวกรในสายงานด้านก่อสร้าง และในช่วงนั้นเป็นเวลาที่บ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ มีปริมาณมาก และหนาแน่น มีแนวโน้มที่จะขยายตัวออกไปยังชานเมือง ด้วยโอกาสที่มองเห็นทำให้เจ้าตัวจึงพัฒนาร้านโชห่วยให้เป็นร้านค้าวัสดุเฉพาะทางสู่ธุรกิจครอบครัว ภายใต้ชื่อร้านว่า บริษัท บุญถาวรวัสดุภัณฑ์ จำกัด

หลังจากนั้น ร้านค้าที่เปิดก็มีการพัฒนาอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบบริการจัดการ ไม่ว่าจะเป็น การวางสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้เหมือนกับร้านโชห่วยทั่วไป มีการติดแอร์ มีห้องตัวอย่างให้ลูกค้าได้สัมผัสของจริง ตลอดจนบริการออกแบบตามความต้องการของลูกค้า

จากการเติบโตของธุรกิจ ในปี พ.ศ.2527 คุณวิวัฒน์ ได้แยกออกมาทำเองในชื่อ บริษัท บุญถาวรเซรามิค (รัชดา) จำกัด โดยต่อยอดร้านค้าให้มีสีสันมากขึ้น ทั้งรูปแบบการจัดแสดงที่อ้างอิงจากเมืองนอก การเพิ่มลูกเล่นให้หน้าร้าน มีการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาให้บริการลูกค้า

อาณาจักร “บุญถาวร” เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง สาขาเดียวไม่เพียงพอต่อปริมาณของลูกค้า และเพื่อให้เกิดความทั่วถึงจึงขยายสาขาออกไป 4 มุมเมือง ได้แก่ รังสิต ปิ่นเกล้า บางนา และธนบุรี-ปากท่อ เรียกได้ว่าใครใกล้ที่ไหนก็สามารถเดินทางไปซื้อสินค้าที่นั่นได้เลย

ในส่วนของสินค้า “บุญถาวร” ใช้กลยุทธ์หลักการเป็นศูนย์รวมสินค้า ของตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ดังนั้น ของที่อยู่ภายในจึงมีความหลากหลาย ตอบโจทย์คนที่อยากซื้อของเข้าบ้าน เช่น กระเบื้อง เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องครัว โคมไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง สินค้าอื่นๆ เกี่ยวกับบ้าน และเฟอร์นิเจอร์

ผลประกอบการ บุญถาวร

-ปี 2563 รายได้รวม 12,447 ล้านบาท กำไร 72 ล้านบาท
-ปี 2564 รายได้รวม 11,554 ล้านบาท กำไร 204 ล้านบาท
-ปี 2565 รายได้รวม 13,048 ล้านบาท กำไร 404 ล้านบาท
-ปี 2566 งวด 9 เดือนแรก (สิ้นสุด 30 ก.ย.2566) รายได้รวม 10,339 ล้านบาท กำไร 214 ล้านบาท

ล่าสุด “บุญถาวร” ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ ในชื่อย่อการซื้อขายว่า “BOON” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ, เพื่อชำระเงินคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

หากมองในเรื่องความคุ้มค่าสำหรับนักลงทุนกับการซื้อหุ้น เมื่อมองในมุมของตัวแบรนด์ถือว่ามีความน่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่งทางธุรกิจไม่ใช่น้อย ดูได้จากผลประกอบการทั้งในส่วนรายได้รวม และผลกำไรในช่วงปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับในตัวสินค้าที่ขายต้องบอกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมี ต้องใช้ และต้องซื้อ

ทั้งนี้ “บุญถาวร” มีสาขาอยู่ 50 แห่ง ทั่วประเทศไทย แบ่งเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของกลุ่มบริษัท จำนวน 15 สาขา และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบแฟรนไชส์ร่วมกลุ่มกับ SCG ใช้ชื่อว่า “SCG HOME” และ “SCG Home บุญถาวร” จำนวน 35 สาขา

ที่มา: บุญถาวร, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย