การทำธุรกิจหลายคนอาจจะมองเรื่อง “รายได้” และ “กำไร” ทำอย่างไรก็ได้ให้สินค้า หรือบริการที่มีอยู่ขายออก ได้รับความนิยมจากลูกค้า พร้อมกับสร้างภาพความฝันขึ้นมาว่าธุรกิจที่ทำอยู่จะเติบโต ร้านค้าใหญ่ ๆ มีสาขาตามสถานที่ต่าง ๆ

แต่เมื่อเราโฟกัสกับเรื่อง “เงิน” มากจนเกินไป อาจกลายเป็นความเครียดที่ย้อนมาทำร้ายตัวคุณเอง ไม่สนุกกับธุรกิจที่ทำอยู่ เป็นเพราะอะไร เรามาหาคำตอบกัน

คิดเรื่อง “เงิน” มากไปทำให้ละเลยคุณภาพ

การขายสินค้า หรือบริการ แน่นอนว่าเป้าหมายแรกคือการขายสิ่งที่มีอยู่เหล่านั้นออกไปให้ได้ เพื่อให้ได้เงินมาให้มากที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เราจะมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะจะคิดแค่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้รายได้ยังเท่าเดิม แม้สถานการณ์ หรือบริบท ณ ขนาดนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม

สุดท้ายสินค้าที่เคยรักษาคุณภาพ กลายเป็นไร้คุณภาพ เมื่อลูกค้ารู้ธุรกิจของคุณเป็นอันจบกัน

คิดเรื่อง “เงิน” มากไปจะนำมาสู่การเอาเปรียบลูกค้า

การทำธุรกิจที่ดีคือการรักษาลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น สิ่งที่จะจูงใจคงหนีไม่พ้นการทำการตลาด เช่น จัดโปรโมชัน, มอบส่วนลด, สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก เหล่านี้เป็นการแสดงถึงความเอาใจใส่ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

แต่ถ้าคุณไม่มีอะไรให้กลับไปเลย เป็นลูกค้าที่เป็นผู้ซื้อฝ่ายเดียว ย่อมจะถูกมองว่าเป็นการเอาเปรียบ เพราะคุณคิดที่จะได้เพียงอย่างเดียว

คิดเรื่อง “เงิน” มากไปกดดันพนักงานทำให้ไม่มีความสุข

ทำไมขายไม่ได้? ทำไมยอดเดือนนี้ไม่เข้าเป้า”

ทุกคนล้วนมีหน้าที่ เป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ และไปให้ถึง แต่การกดดันมากจนเกินไป และไม่ร่วมกันหาวิธีแก้ไข ก็จะนำมาสู่บรรยากาศการทำงานที่อึมครึม แต่ละคนดูเครียดกันไปหมด เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ทุกคนไม่มีความสุข และเหตุการณ์ต่อมาคือการบอกลาองค์กรนั่นเอง

การทำธุรกิจเป็นการบริหารที่ใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์ ที่ต้องผสมผสานให้เกิดความสมดุล หากอยากมีธุรกิจที่ยั่งยืน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเงินถือเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน แต่ไม่ควรนำมาไว้ลำดับต้น ๆ เรื่องที่ควรโฟกัสควรเป็นการสร้างแบรนด์ สร้างมูลค่าให้กับสินค้า เมื่อสินค้าติดตลาดแล้ว รับรองเลยว่ารายได้ก็จะเข้าตามมาอย่างแน่นอน