บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายสูงสุดในรอบ 8 ปี เพราะขาดแคลนแรงงาน-ค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น


ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หากติดตามข่าวสารจะเป็นที่ทราบกันดีว่า ญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่คนวัยทำงานมีจำนวนลดลง แต่ผู้สูงวัยมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ภาคส่วนธุรกิจต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ทั้งการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หรือว่าจ้างแรงงานต่างชาติมากยิ่งขึ้น

แต่ด้วยปัญหาที่สะสมมาเรื่อย ๆ จึงหลีกหนีไม่พ้นที่ในปี 2023 บริษัทในประเทศญี่ปุ่นมีการล้มละลายมากที่สุดในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2015 โดยปัญหาการขาดแคลนแรงงานก็เป็นหนึ่งในปัจจัยในเรื่องนี้

การสำรวจของ Tokyo Shoko Research พบว่าความล้มเหลวทางธุรกิจใน 10 ภาคส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น, การขาดแคลนแรงงาน, การชำระสินเชื่อ/เงินกู้ อย่างเต็มรูปแบบหลังจากได้รับการผ่อนปรนจากวิกฤตโควิด-19 โดยบริษัทที่ล้มละลายมีหนี้สินอย่างน้อย 10 ล้านเยน มีจำนวน 8,812 ราย เพิ่มขึ้น 35.2% จากปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015

เมื่อรวมหนี้สินคงเหลือของบริษัทที่ล้มเหลวเติบโต 3.1% คิดเป็น 2.4 ล้านล้านเยน สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2017

ประเด็นที่น่าสนใจคือมีบริษัทญี่ปุ่นที่ยื่นล้มละลายจากปัญหาขาดแคลนแรงงานจำนวน 158 แห่ง สูงสุดนับตั้งแต่การสำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2013 และการขาดแคลนแรงงานมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 เท่า เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่ล้มละลายเพราะเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น จำนวน 645 แห่ง, ค่าแรงที่เพิ่มสูง จำนวน 59 แห่ง

ขณะเดียวกันจำนวนบริษัทที่ล้มละลายเพราะเกี่ยวข้องกับวิกฤตโควิด-19 มีจำนวน 3,127 เพิ่มขึ้น 36.4% มีหลายบริษัทเลิกกิจการไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคส่วนบริการ เพราะว่าประสิทธิภาพไม่ฟื้นตัว

ที่มา: japantimes